ทลายเครือข่ายลำเลียงยาบ้าลงใต้ ยึด 1.9 ล้านเม็ด
ป.ป.ส. แถลงผลจับกุมทลายเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ ยึดยาบ้า 1.9 ล้านเม็ด ยึดทรัพย์กว่า 1.5 ล้านบาท
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด แถลงผลการทลายเครือข่าย กลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้รายใหญ่ ได้ของกลางยาบ้ากว่า 1,900,000 เม็ด โดยสามารถจับกุมได้ที่จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมยึดทรัพย์ สินได้กว่า 1,500,000 บาท โดยพฤติการณ์ของเครือข่ายดังกล่าว จะใช้บ้านเช่าในพื้นที่ภาคกลาง ได้แก่ พื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี / และจังหวัดนนทบุรีเป็นสถานที่เก็บพักยาบ้า ก่อนจะลำเลียงต่อไปยังพื้นที่ภาคใต้คือ พื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ระบุว่า สถิติยาบ้าที่ถูกลำเลียงไปสู่พื้นที่ภาคใต้ปี 2566 สกัดกั้นได้ 6,600,000 เม็ด ปี 2567 สกัดกั้นได้ 39 ล้านเม็ด เพิ่มขึ้นเกือบ 6 เท่า โดยยาบ้าส่วนหนึ่งลงไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และตอนเหนือของประเทศมาเลเซีย /ซึ่งการการปราบปรามเจ้าหน้าที่จะเข้มงวดบริเวณด่านตรวจจับ ล่าสุดทาง นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติการจัดซื้อเครื่องเอกซเรย์เพิ่มเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วนการป้องกันปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือจะเน้นการสกัดกั้น โดยเตรียมจัดสรรค์งบประมาณซื้อเครื่องมือที่ทันสมัย เช่น โดรนบินสำรวจ แอนตี้โดรนใช้ป้องกันการขนยาเสพติดโดยใช้โดรนจากแนวชายแดน ซึ่งผลการสกัดกั้นยาเสพติดบริเวณแนวชายแดนภาคเหนือในปี 2566 อยู่ที่ 420 ล้านเม็ด ส่วนปี 2567 เพิ่มขึ้น ประมาณ 700 ล้านเม็ด
ทั้งนี้พื้นที่ภาคเหนือ ถือเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดสำคัญ ล่าสุดได้มีการหารือกับทางอัยการสูงสุด ได้ส่งเจ้าหน้าที่อัยการที่มีความรู้ ด้านพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติพ.ศ 2556 และสนธิสัญญาว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญ ที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ไทย ส่วนการป้องกันปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือจะเน้นการสกัดกั้น โดยเตรียมจัดสรรค์งบประมาณซื้อเครื่องมีที่ทันสสัย เช่น โดรนบินสำรวจ //แอนตี้โดรนใช้ป้องกันการขนยาเสพติดโดยใช้โดรนจากแนวชายแดน // ซึ่งผลการสกัดกั้นยาเสพติดบริเวณแนวชายแดนภาคเหนือในปี 2566 อยู่ที่ 420 ล้านเม็ด ส่วนปี 2567 เพิ่มขึ้น ประมาณ 700 ล้านเม็ด
ทั้งนี้พื้นที่ภาคเหนือ ถือเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดสำคัญ ล่าสุดได้มีการหารือกับทางอัยการสูงสุด ได้ส่งเจ้าหน้าที่อัยการที่มีความรู้ ด้านพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติพ.ศ 2556 และสนธิสัญญาว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญ ที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ไทย ออกหมายจับผู้ที่สนับสนุนหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผลิตยาเสพติดในเขตพื้นที่แนวชายแดนได้
ข่าวแนะนำ