ขำ-ไม่ขำ ต้องลอง! สอนเทคนิค 8 ท่าหัวเราะง่ายๆ ประโยชน์เหลือล้น
รู้หรือไม่...การ "หัวเราะ" ให้ประโยชน์มากมาย แถมยังช่วยบำบัดระบบต่างๆ ภายในร่างกายได้อีกด้วย
รู้หรือไม่...การ "หัวเราะ" ให้ประโยชน์มากมาย แถมยังช่วยบำบัดระบบต่างๆ ภายในร่างกายได้อีกด้วย
วันนี้ TNN จะชวนทุกคนมา "หัวเราะ" เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดี แล้วอย่าลืมชวนคนข้างๆ มาหัวเราะด้วยกัน เพราะยิ่งหัวเราะกันหลายคน จะยิ่งได้ผลดีกว่าหัวเราะคนเดียวอีก
ขำทุกวัน แต่..รู้หรือไม่ "หัวเราะ" มี 2 ประเภท
1.การหัวเราะแบบธรรมชาติ : เป็นการหัวเราะโดยอาศัยสิ่งเร้า ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง เรื่องประหลาด ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน สร้างอารมณ์ขัน
2.การหัวเราะบำบัด (Laughter Therapy) : เป็นการหัวเราะแบบรู้ตัวที่ให้ผลเชิงสุขภาพ โดยไม่จำเป็นต้องมีสิ่งกระตุ้นอารมณ์ขัน ซึ่งการหัวเราะบำบัดนี้ จะทำเพื่อกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphin) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้อารมณ์ดี มีความสุข
ทำไมต้อง "หัวเราะบำบัด"
ถ้าอิงตามหลักของศาสตร์ทางตะวันออกที่มองทุกอย่างเป็นองค์รวม โดยเน้นฝึกด้วยท่าหัวเราะหลายๆ ท่า เพราะในแต่ละท่าจะมีประโยชน์ต่างกัน โดยใช้เสียง "โอ อา อู เอ" นำมาประยุกต์ในกระบวนการหัวเราะ
สำหรับการหัวเราะมีจุดอ่อนอย่างหนึ่ง คือ ถ้าหัวเราะคนเดียวอาจไม่ได้ผล ฉะนั้นการหัวเราะบำบัดควรหัวเราะด้วยกัน 2 คนขึ้นไป เริ่มแรกที่จะหัวเราะ การส่งยิ้มให้แก่เพื่อนก่อนจะเป็นตัวกระตุ้นได้ดี เพราะรอยยิ้มเป็นที่มาของเสียงหัวเราะนั่นเอง
ภาพโดย Galina Bogdanovskaya จาก Pixabay
"หัวเราะ" วันละนิด มีประโยชน์มากกว่าที่คิด
ระบบหายใจ
ระหว่างที่หัวเราะร่างกายมีการหายใจเข้า กลั้นหายใจ และหัวเราะ หายใจออกยาวๆ ทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนถ่ายออกซิเจน ฟอกเลือดดำให้เป็นเลือดแดง ช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ทั้งไข้หวัด ไซนัส ภูมิแพ้ โรคปอด หอบหืด ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ
ระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย
เมื่อหัวเราะจะทำให้เกิดการบริหารกระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ และลำไส้เล็ก ทำให้ระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย ทำงานดีขึ้น
ระบบไหลเวียนโลหิต
การหัวเราะทำให้หัวใจทำงานเป็นระบบขึ้นป้องกันอาการเวียนศีรษะ เจ็บแน่นหน้าอก เส้นเลือดหัวใจตีบตัน โรคหัวใจ ตลอดจนอาการใจสั่น
ภาพโดย Yeu RodVall จาก Pixabay
ระบบทำงานของสมอง
การหัวเราะช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาทสมอง ส่วน prefrontal cortex บริเวณสมองส่วนหน้า ที่ทำให้เกิดการหลั่งของสารชีวเคมีตัวหนึ่งที่ชื่อว่า endorphin มีฤทธิ์ทำให้เกิดความสุข ส่งผลทำให้มีอารมณ์ดี
สัญชาติญาณการอยู่รอด
หัวเราะบำบัดจะทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว แข็งแรง ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน กระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาท กระดูก กล้ามเนื้อ ร่างกายทำงานเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และยังช่วยป้องกันโรคซึมเศร้าได้ด้วย
ระบบเจริญพันธุ์
การหัวเราะบำบัด ส่งผลต่อการทำงานของสมองส่วนนอก ส่วนกลาง และส่วนใน ให้ทำงานดีขึ้น เป็นระบบ และยังช่วยให้ อารมณ์ดี พัฒนาอารมณ์รัก และการมีเพศสัมพันธ์ และช่วยป้องกันการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
ภาพถ่ายโดย Savannah Dematteo จาก Pexels
สอนวิธีง่ายๆ "หัวเราะบำบัด" 8 ท่า
1.ท้องหัวเราะ เปล่งเสียง "โอ" : เป็นการออกเสียงจากท้อง เปล่งเสียงโอ
วิธีทำ ให้ยืนตัวตรง กางขาเล็กน้อย กำมือโดยชูนิ้วหัวแม่มือขึ้น ให้อยู่ในระดับท้อง หายใจเข้าเปล่งเสียงโอ หายใจออกเปล่งเสียงโอะๆๆ ค่อยๆ ปล่อยลมหายใจออกมา
2.อกหัวเราะ เปล่งเสีย "อา" : เป็นการเปล่งเสียงออกจากอก ท่านี้เมื่อเปล่งเสียงอา จะกระตุ้นให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าอก หัวใจ ปอด และไหล่ขยับเขยื้อนไปด้วย ท่านี้จะช่วยให้อวัยวะบริเวณหน้าอกทั้งหมดทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้การสูบฉีดและการไหลเวียนเลือดในร่างกายดีขึ้น
วิธีทำ ให้ยืนตัวตรง กางขาเล็กน้อย กางแขนออกไปข้างลำตัวเหมือนนกกระพือปีก หงายมือขึ้น และปล่อยมือตามสบาย ตามองตรง สูดลมหายใจลึกๆ กักลมไว้ ค่อยๆ เปล่งเสียง “อา อะ ๆ ๆ…” ขณะเดียวกันให้ปล่อยลมหายใจออก พร้อมกับกระพือแขนขึ้นลง
ภาพโดย Emi Lija จาก Pixabay
3.คอหัวเราะ เปล่งเสียง "อู" : เป็นการเปล่งเสียงออกจากลำคอ
วิธีทำ ให้ยืนตัวตรง กางขาเล็กน้อย แขนแนบกับลำตัว ยกตั้งฉากชี้ไปข้างหน้า งอนิ้วนางและนิ ้วก้อยเข้าหาตัวเอง ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้น และชี้นิ้วชี้และนิ้วกลางไปข้างหน้าในลักษณะชิดติดกัน เหมือน "ท่ายิงปืน" ตามองตรง จากนั้นสูดลมหายใจลึกๆ กักลมไว้ แล้วค่อยๆ เปล่งเสียง “อู อุ ๆ ๆ…” ขณะเดียวกันค่อยๆ ปล่อยลมหายใจออก พร้อมกับแทงมือไปข้างหน้า
4.ใบหน้าหัวเราะ เปล่งเสียง "เอ" : ท่านี้เป็นการฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กที่นิ้วมือ และยังช่วยบริหารสมองด้วย
วิธีทำ ให้ยืนตามสบาย ค่อยๆ ยกมือขึ้นมาตามถนัด สูดลมหายใจลึกๆ แล้ว ขยับทุกนิ้วทั้งหัวแม่มือ ชี้ กลาง นาง และก้อย ตามองตรง ระหว่างนั้นให้เปล่งเสียง “เอ เอะ ๆ ๆ…” ออกมา
ภาพโดย engin akyurt จาก Pixabay
5.จมูกหัวเราะ : ท่านี้จะช่วยไล่สิ่งสกปรกในจมูกออกมา บำบัดภูมิแพ้ ไซนัส หวัด โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาเรื่องระบบหายใจ ท่านี้จะช่วยให้จมูกโล่ง
วิธีทำ ย่นจมูกขึ้นและทำเสียง “ฮึ ๆ...” ในจมูกให้ลมออกจากจมูก
6.ตาหัวเราะ : เป็นการบริหารดวงตาให้ผ่อนคลาย
วิธีทำ กะพริบตาถี่ๆ กรอกตาขึ้นลงเป็นวงกลม แล้วเปล่งเสียง “อ่อย ๆ ๆ…” มองซ้ายที ขวาที
7.สมองหัวเราะ : โดยธรรมชาติของมนุษย์เมื่อเครียดมักจะปิดปาก เป็นเหตุให้ความดันขึ้นสมอง ท่านี้จะช่วยแก้ปัญหาได้
วิธีทำ หายใจเข้าให้เต็มปอด เก็บลมไว้ ปิดปากแล้วเปล่งเสียง “อึ ๆ ๆ…” อย่างต่อเนื่อง จนลมหมดแล้วเริ่มใหม่ เสียงที่เปล่งออกมาอย่างต่อเนื่อง จะดันให้เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นไปนวดสมอง และยังนวดกระบอกตาอีกด้วย ถ้าทำไประยะหนึ่งจะสังเกตว่าสายตาดีขึ้น และยังรู้สึกสมองโล่ง โปร่งสบาย
ภาพโดย Christopher Ross จาก Pixabay
8.ไหล่หัวเราะ : เป็นการบริหารช่วงไหล่
วิธีทำ ให้ยืนตัวตรงแล้วส่ายไหล่ไปมา พร้อมกับเปล่งเสียง “เอ เอะ ๆ ๆ…” ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับไหล
อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยหลายที่ชี้ให้เห็นว่า การหัวเราะทำให้ฮอร์โมนความเครียด เช่น คอร์ซิตอล อะดรีนาลีน ลดลงและช่วยเพิ่มสาร “เอ็นดอร์ฟิน” หรือสารความสุขให้รู้สึกผ่อนคลาย และยังช่วยลดความเสี่ยงจากโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง อีกทั้ง ยังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ถ้าดีขนาดนี้ ชวนเพื่อนๆ มาหัวเราะด้วยกันเถอะ :)
* ขอบคุณข้อมูลจาก กรมแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ข่าวแนะนำ
-
กทม.เปิดสวน 15 นาทีแล้ว 141 แห่ง
- 11:25 น.