“Da Vinci Alive Bangkok” ตำนานอัจฉริยะเหนือกาลเวลา ‘เลโอนาร์โด ดา วินชี’
ครั้งแรกในประเทศไทย ร่วมสัมผัสและเปิดประสบการณ์การรับชมนิทรรศการในรูปแบบ Immersive Exhibition ที่เจาะลึกและครอบคลุมมากที่สุดในโลก ผู้ชมจะได้รับแรงบันดาลใจจากวิธีคิดเชิงวิทยาศาสตร์ ความคิดสร้างสรรค์ และการคิดเชิงเทคนิคที่พบได้ในผลงานชิ้นเอก
Grande Experiences ผู้สร้างและผู้ผลิตเจ้าของลิขสิทธิ์ Monet & Friends Alive ร่วมกับ Live Impact Events ผู้ถ่ายทอดและนำเสนอประสบการณ์ระดับโลก และ ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ผนึกกำลังสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ อีกครั้งกับนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟระดับโลก “Da Vinci Alive Bangkok” (ดา วินชี อะไลฟ์ แบงคอก) ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย สมบูรณ์ที่สุดในเอเชีย และละเอียดครบถ้วนที่สุดในโลก
โดยความร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์เลโอนาร์โด ดา วินชี (Museo Leonardo da Vinci) ในกรุงโรม และผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงจากอิตาลีและฝรั่งเศส พร้อมนำทุกคนก้าวเข้าสู่โลกอันชวนให้หลงใหลของสุดยอดปรมาจารย์แห่งยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ (Renaissance) อัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เพื่อเฉลิมฉลองมรดกทางอัจฉริยภาพของเลโอนาร์โด ดา วินชี ผ่านประสบการณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้
ครั้งแรกในประเทศไทย ร่วมสัมผัสและเปิดประสบการณ์การรับชมนิทรรศการในรูปแบบ Immersive Exhibition ที่เจาะลึกและครอบคลุมมากที่สุดในโลก ผู้ชมจะได้รับแรงบันดาลใจจากวิธีคิดเชิงวิทยาศาสตร์ ความคิดสร้างสรรค์ และการคิดเชิงเทคนิคที่พบได้ในผลงานชิ้นเอก สิ่งประดิษฐ์ บันทึกโบราณ และภาพวาดของปรมาจารย์ยุคเรอเนซองส์
และร่วมดื่มด่ำกับผลงานอันทรงคุณค่าของเลโอนาร์โดที่ส่งอิทธิพลต่อหลากหลายแขนงวิชา ตั้งแต่วิทยาศาสตร์ไปจนถึงศิลปะ วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ในขณะเดียวกันก็เป็นแบบอย่างของการคิดค้นสิ่งใหม่และตั้งคำถามกับโลกรอบตัวเรา จัดแสดงให้รับชม ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม - 31 กรกฎาคม 2567 บนพื้นที่กว่า 4,600 ตารางเมตร ณ Attraction Hall ชั้น 6 ไอคอนสยาม
โดยนิทรรศการศิลปะดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟ “Da Vinci Alive Bangkok ครั้งยิ่งใหญ่นี้ จัดแสดงหลักการทางวิทยาศาสตร์และศิลปะที่ก้าวล้ำของเลโอนาร์โด ดา วินชี ซึ่งประกอบด้วยสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นเครื่องจักรขนาดใหญ่ แกลเลอรีที่ใช้เทคนิคการฉายภาพ Immersive Projection ที่ชวนหลงใหล การจำลองการศึกษาด้านกายวิภาคที่เลโอนาร์โดได้รับการยกย่อง ตลอดจนภาพวาดที่ชื่อ Battle of Anghiari และศิลปะเรอเนซองส์อันโด่งดัง แบ่งพื้นที่จัดแสดงภายใต้ธีมต่างๆ มากกว่า 17 ธีม สิ่งประดิษฐ์ที่เป็นเครื่องจักรขนาดใหญ่มากกว่า 75 ชิ้นงาน รวมผลงานอันวิจิตรงดงามกว่า 200 ชิ้น โดยแบ่งเป็น 3 โซนหลัก เพื่อให้สัมผัสความเป็นศิลปินได้อย่างเต็มอิ่ม ดังนี้
โซนแรก อัจฉริยะแห่งการสร้างสรรค์ (The Genius of Creation) ก้าวแรกเป็นการทำความรู้จักกับ เลโอนาร์โด ดา วินชี ผ่านชิ้นงานที่ถือเป็นไฮไลต์ของศิลปิน ได้แก่ ตำราโบราณโคเด็กซ์, การศึกษาเครื่องจักรกลการบิน, ไฮดรอลิกส์และเครื่องจักรทางน้ำ, วิศวกรรมทางการทหาร, มนุษย์วิทรูเวียน (The Vitruvian Man), เครื่องจักรกลโยธา, เครื่องดนตรี เลนส์ และเวลา, หลักการฟิสิกส์และกลศาสตร์, การตีความ Da Vinci Alive, ภาพเขียนเลโอนาร์โด ดา วินชี, พระกระยาหารมื้อสุดท้าย (The Last Supper), สงครามอังกีอารี (Anghiari Battle), ประติมากรรมรูปม้า และโรงหนังดา วินชี (Da Vinci Theatre)
ก้าวต่อไปยังพื้นที่แสดงงานในโซนที่ 2 พบกับการเปิดเผยความลับของศิลปะอันเลื่องชื่อของ เลโอนาร์โด ดา วินชี กับ “ความลับของโมนาลิซ่า” (The Secrets of the Mona Lisa) ซึ่งถือเป็น การเปิดเผยความลับของโมนาลิซ่า เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย
ในช่วงปลายปี 2004 พาสคาล คอตต์ (Pascal Cotte) วิศวกรเชิงวิทยาศาสตร์และนักวิเคราะห์งานศิลปะชาวฝรั่งเศส เป็นคนแรกที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลฝรั่งเศสและพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ เพื่อทำการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับภาพวาดโมนา ลิซา (Mona Lisa) โดยนิทรรศการ The Secrets of Mona Lisa หรือ ความลับของโมนา ลิซา นำเสนอภาพเขียนอันโด่งดังให้ได้รับชมอย่างใกล้ชิด
ผู้ชมจะได้สัมผัสประสบการณ์การขยายและวิเคราะห์ภาพและอธิบายโดยละเอียดถึงความลับที่ทำให้ภาพสุดพิเศษนี้เป็นที่พูดถึงอย่างมาก มีภาพขยายกว่า 40 เท่าในความละเอียดสูงสุด ซึ่งทำการวิจัยและบันทึกโดยคอตต์รวมถึงภาพพิมพ์อินฟราเรดสูง 4 เมตร (13 ฟุต)
และการเปิดเผยความลับครั้งแรกของโลกเกี่ยวกับภาพวาดที่สูญหายไปที่อยู่เบื้องหลังภาพวาดโมนาลิซาในปัจจุบัน พร้อมอธิบายว่าเลโอนาร์โด ดา วินชี วาดภาพโมนาลิซาออกมาอย่างไร รวมถึงเทคนิค ความคิด และการเตรียมการของลีโอนาร์โดในการวาดภาพโมนา ลิซา รวมถึงการปรับแต่งของภาพโดยลีโอนาร์โด และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การตรวจสอบผลกระทบของน้ำมันเคลือบเมื่อเวลาผ่านไป แสดงสีดั้งเดิมของภาพโมนา ลิซาในปี ค.ศ.1506 รูปจำลอง 360 องศาที่เดียวในโลก
การจัดแสดงผลลัพธ์แสนมหัศจรรย์ของการผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ศิลปะ และวัฒนธรรม ไทม์ไลน์ที่มาของภาพโมนา ลิซา และประวัติอันมีสีสันของเธอ งานวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์ของวิธีการวาดแบบสโฟมาโต โดยลีโอนาร์โอ และหลักฐานชิ้นใหม่ที่น่าทึ่งที่พิสูจน์ว่าโมนาลิซาไม่ใช่คนอย่างที่เราคิด
ต่อเนื่องด้วยโซนที่ 3 พบกับ ความงามของยุคเรอเนซองส์ของอิตาลี (Beauty of Italian Renaissance) การเดินทางที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งยุคศิลปะและวัฒนธรรมที่มีคุณค่าที่สุดในประวัติศาสตร์ Italian Renaissance Alive เป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการที่จะพาผู้ชมย้อนกลับไปสัมผัสกับความรุ่มรวยตลอดยุคเรอเนซองส์ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ถึง 17 ซึ่งเป็นยุคที่มีอิทธิพลทางศิลปะและวัฒนธรรมของโลก
เมื่อก้าวเข้าไปสัมผัสประสบการณ์อิมเมอร์ซีฟในดิจิตอลแกลเลอรี ผู้เข้าชมจะค้นพบและเข้าใจถึงเรื่องราวของศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ประติมากรรม และวรรณกรรมของยุคนั้นซึ่งส่งผลและมีอิทธิพลต่ออารยธรรมในยุคต่อๆ มาเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ยังได้สัมผัสกับผลงานชิ้นเอกหลายร้อยชิ้นจากเหล่าศิลปินและประติมากรที่มีชื่อเสียงทั่วโลก เช่น Michelangelo, Leonardo, Botticelli, Caravaggio, Raphael, Titian, Veronese และอีกมากมาย ผลงานที่โดดเด่นเหล่านี้ เช่น โบสถ์ Sistine ที่น่าทึ่งของ Michelangelo, ภาพวาด Mona Lisa และ The Last Supper ของ Leonardo da Vinci และ Birth of Venus อันโด่งดังของ Botticelli ล้วนถูกทำให้มีชีวิตขึ้นมาผ่านการนำเสนอด้วยระบบดิจิทัลอันน่าทึ่ง ประสบการณ์ดังกล่าวถูกทำให้น่าสนใจมากขึ้นด้วยโน้ตเพลงโอเปร่าอันทรงพลัง ซึ่งมีผลงานของปุชชินี (Puccini) และแวร์ดี (Verdi) ซึ่งช่วยเติมเต็มเรื่องราวความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์สุดพิเศษกับนิทรรศการศิลปะดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟระดับโลก Da Vinci Alive Bangkok สุดยิ่งใหญ่ได้ ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2567 ณ Attraction Hall ชั้น 6 ไอคอนสยาม เปิดจำหน่ายบัตรแล้ววันนี้ที่ Thai Ticket Major หรือ https://www.liveimpact-event.com/davinci/ ราคาบัตร VIP 1,580 บาท, บัตรทั่วไป 1,080 บาท และบัตรนักเรียน/นักศึกษา 480 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.1338 หรือ Facebook : ICONSIAM
ภาพโดย: ธนาชัย ประมาณพาณิชย์
อัลบัมรูปภาพ 32ภาพ
ข่าวแนะนำ