ทส. เตรียมตั้งจุดเฝ้าระวังไฟป่ารอบ 11 พื้นที่อนุรักษ์ บรรเทาฝุ่น PM2.5
ทส. เตรียมการใช้งบกลาง แก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน ตั้งจุดเฝ้าระวังไฟป่าร่วมกับชุมชนรอบพื้นที่ 11 ป่าอนุรักษ์ 10 ป่าสงวนฯ บรรเทาสถานการณ์ฝุ่น PM2.5
วันนี้ (14 มี.ค. 67) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการดำเนินงานแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2567 ที่ได้จัดสรรให้กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ใช้ในการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันเพื่อลดฝุ่นละออง PM2.5 โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ในพื้นที่เป้าหมาย 10 ป่าสงวนแห่งชาติ และ 11 ป่าอนุรักษ์
ทั้งนี้เน้นให้ประชาชนโดยรอบพื้นที่เป้าหมายเข้าร่วมประจำจุดเฝ้าระวังไฟป่าของกรมป่าไม้ 1,069 จุด และของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 1,582 จุด ครอบคลุมพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ และจังหวัดกาญจนบุรี ณ ห้องประชุม ชั้น 20 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในที่ประชุม พล.ต.อ.พัชรวาท ได้เห็นชอบแผนการดำเนินงานโครงการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เพื่อลดฝุ่นละออง PM2.5 โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของกรมป่าไม้ วงเงิน 109,946,650 บาท และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช วงเงิน 162,708,700 บาท พร้อมสั่งการให้เร่งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี และดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน
รวมทั้งเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานนำมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในช่วงสถานการณ์วิกฤต ไปปฏิบัติการอย่างเร่งด่วน ควบคุมจัดการไฟป่าในพื้นที่มุ่งเป้า 11 ป่าอนุรักษ์ และ 10 ป่าสงวนฯ รวมถึงพื้นที่เกษตรเผาไหม้ซ้ำซากในพื้นที่สูง และในพื้นที่ราบของ 17 จังหวัดภาคเหนือ ตามที่ได้มอบนโยบายยกระดับมาตรการเข้มงวดสูงสุด แก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ภาคเหนือ ไว้ในการประชุมเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา และขอให้ทุกหน่วยงานทุ่มเทสรรพกำลังเข้าปฏิบัติการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ที่ยังคงมีแนวโน้มรุนแรงอย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง และคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เป็นสำคัญ
ภาพจาก: AFP
ข่าวแนะนำ