TNN ‘เศรษฐา’ ขึ้นปกนิตยสารไทม์ พาดหัว 'เดอะเซลส์แมน'

TNN

สังคม

‘เศรษฐา’ ขึ้นปกนิตยสารไทม์ พาดหัว 'เดอะเซลส์แมน'

‘เศรษฐา’ ขึ้นปกนิตยสารไทม์ พาดหัว 'เดอะเซลส์แมน'

‘เศรษฐา’ ขึ้นปกนิตยสารไทม์ พาดหัว “เดอะเซลส์แมน” พร้อมอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มจาก นิตยสารไทม์

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทยได้ขึ้นปกนิตยสารไทม์ (TIME) ฉบับวันที่ 25 มี.ค.นี้ พร้อมกันนี้ นายเศรษฐายังได้ให้สัมภาษณ์กับ TIME ในหลายประเด็น ซึ่งรวมถึงจุดยืนที่ประเทศไทยมีต่อกรณีสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และความเห็นที่มีต่อกรณีที่นักร้องสาว เทเลอร์ สวิฟต์ ไม่ได้เข้ามาจัดคอนเสิร์ตในประเทศไทย เนื่องจากติดข้อตกลงที่ทำไว้กับรัฐบาลสิงคโปร์


นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์กับ TIME ว่า เขาไม่ได้โกรธเคืองเทเลอร์ สวิฟต์ และไม่ได้โกรธเคืองสิงคโปร์ด้วยเช่นกัน แต่เขาเพียงรู้สึกเสียดายที่ไทยพลาดโอกาสในการจัดงานคอนเสิร์ตของนักร้องสาวเจ้าของรางวัลแกรมมี่ผู้นี้


"สิงคโปร์ฉลาดมาก ๆ และผมก็อยากจะทำได้อย่างนั้น ผมคิดว่าจริง ๆ แล้วประเทศไทยมีข้อเสนออีกมากมาย ไม่ใช่เพียงแค่ข้อเสนอสำหรับเทเลอร์ สวิฟต์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักร้องระดับ A-list คนอื่น ๆ ด้วย" นายเศรษฐาเปิดเผยกับ TIME ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อตะวันตกในประเทศไทย


นายเศรษฐายังให้สัมภาษณ์กับ TIME เกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยนายเศรษฐากล่าวว่า เขาต้องการแสดงจุดยืน "ที่เป็นกลาง" ต่อกรณีสงครามดังกล่าว และได้กล่าวปกป้องการตัดสินใจของเขาที่ได้เชิญนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียให้เดินทางเยือนประเทศไทยเมื่อครั้งที่เขาพบปะกับนายปูตินที่กรุงปักกิ่งเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว


"ไทยไม่มีส่วนในความขัดแย้งระหว่างประเทศใด ๆ เราไม่สนับสนุนความรุนแรง และเรายึดมั่นในหลักกฎหมายสากล เรายืนเคียงข้างสันติภาพเพราะเราเชื่อว่า ประชาคมระหว่างประเทศจำเป็นต้องมีจุดร่วมเดียวกัน นั่นคือความเจริญรุ่งเรือง"


"สถานการณ์ในยูเครนได้นำไปสู่การเปลี่ยนขั้วของโลก และกดดันให้หลายประเทศซึ่งรวมถึงไทยต้องเลือกข้าง ซึ่งการกระทำเช่นนี้ไม่เป็นประโยชน์ต่อความพยายามของเราในการส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคง ประเทศไทยเราเชื่อว่าหนทางที่จะนำไปสู่ความก้าวหน้าคือการเสริมสร้างระบบพหุภาคีและความร่วมมือระหว่างประเทศให้แข็งแกร่งขึ้น ไม่ใช่การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย"


นอกจากนี้ นายเศรษฐายังให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา โดยกล่าวว่าเขาต้องการมีส่วนในการแก้ไขปัญหาสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นในเมียนมา พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะเพิ่มความพยายามในการรักษาความสงบในเมียนมา โดยประเทศเพื่อนบ้านของไทยแห่งนี้ตกอยู่ภายใต้ความระส่ำระสายนับตั้งแต่เกิดสงครามกลางเมืองจากการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564


ทั้งนี้ นายเศรษฐากล่าวว่า ไทยมีพรมแดนยาว 2,416 กิโลเมตรติดกับเมียนมา ทำให้ไทยมีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงจากสถานการณ์ในเมียนมา แม้ว่าสันติภาพของเมียนมาจะเป็นประโยชน์ต่อทุกประเทศในกลุ่มอาเซียนก็ตาม


อ่านบทสัมภาษณ์เต็มที่นี่ https://time.com/6899782/thailand-prime-minister-srettha-thavisin-business-hub/?utm_source=twitter&utm_medium=social&utm_campaign=editorial&utm_term=world_asia&linkId=357018853




#นิตยสารไทม์ #เดอะเซลส์แมน #THESALESMAN #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

ข่าวแนะนำ