ตรุษจีน 2567 "มท.1" กำชับผู้ว่าฯ เตรียมความพร้อมป้องกันอันตรายจากอัคคีภัย
ตรุษจีน 2567 "มท.1" ห่วงใยพี่น้องประชาชน กำชับ ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดเตรียมความพร้อมป้องกันอันตรายจากอัคคีภัย
ตรุษจีน 2567 "มท.1" ห่วงใยพี่น้องประชาชน กำชับ ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดเตรียมความพร้อมป้องกันอันตรายจากอัคคีภัย
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2567 ระหว่างวันที่ 8 - 10 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งตามประเพณีปฏิบัติของชาวไทยเชื้อสายจีน จะมีการสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษ โดยการจุดธูปเทียนบูชา เซ่นไหว้ เผากระดาษเงินกระดาษทอง จุดประทัดตามศาลเจ้า บ้านเรือน ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยและอุบัติภัย นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลดังกล่าวมักมีการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนมีมากยิ่งขึ้น และมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ประกอบกับประชาชนทิ้งบ้านเรือนไว้โดยไม่มีผู้ดูแล และขาดความระมัดระวัง อาจทำให้เกิดอัคคีภัยได้ง่าย ซึ่งสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นประจำทุกปี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากอัคคีภัย และอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน จึงได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ดำเนินการเตรียมความพร้อม โดยกำชับผู้อำนวยการในแต่ละระดับ และเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ให้สำรวจ ตรวจสอบพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย พร้อมซักซ้อมแนวทางการเผชิญเหตุอัคคีภัย ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เกิดความชัดเจน ทั้งนี้ ให้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจตราพื้นที่ชุมชน สถานประกอบการ อาคาร เส้นทางสัญจรบริเวณสถานที่จัดกิจกรรม สถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำ พื้นที่ริมตลิ่ง ความมั่นคงแข็งแรงของโป๊ะ ท่าเทียบเรือ ความปลอดภัยของเรือโดยสาร ที่มีสภาพเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยได้โดยง่าย และกำหนดมาตรการความปลอดภัยดูแลจำนวนผู้ใช้บริการให้เหมาะสม ไม่แออัดหนาแน่นจนเกินไป และเตรียมความพร้อมบุคลากร อุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัย ให้พร้อมปฏิบัติงาน ตลอด 24 ชั่วโมง
“ให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ และเจ้าพนักงานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวัง ตรวจตรา อาคารบ้านเรือน พื้นที่ชุมชน สถานประกอบการ และสถานบริการ โดยเฉพาะสถานที่ที่มีการจัดงาน และมีการจุดพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง ในการบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด และรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนลดกิจกรรมการเผาทุกชนิดในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อลดการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) และอันตรายจากอัคคีภัยที่มีสาเหตุจากการจุดธูปเทียนบูชา เซ่นไหว้ เผากระดาษเงิน กระดาษทอง การจุดประทัดตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อป้องกันและระงับอัคคีภัย" นายอนุทินฯ กล่าวเน้นย้ำ
นอกจากนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้กล่าวถึงการดำเนินการด้านการเผชิญเหตุ โดยให้จัดชุดเจ้าหน้าที่ และสั่งใช้สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) บูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนประชาชนจิตอาสา เฝ้าระวังสถานที่ และกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย อุบัติภัย ตามหมู่บ้าน/ชุมชน พร้อมทั้งจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เตรียมความพร้อมในพื้นที่หรือชุมชนที่มีความเสี่ยงภัย เพื่อเฝ้าระวังเหตุ และพร้อมปฏิบัติงานได้ทันที
ตลอดจนพื้นที่ที่มีการจัดงานเทศกาลตรุษจีน และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้จัดระเบียบการจราจร และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร พร้อมทั้งดูแลความปลอดภัยบริเวณที่มีประชาชนหนาแน่น ทั้งนี้ หากเกิดอัคคีภัย อุบัติภัย หรือสาธารณภัยอื่นที่มีผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก ให้ดำเนินการตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และรายงานให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางทราบทันที ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนสามารถแจ้งเหตุสาธารณภัยผ่านสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
แฟ้มภาพ TNN Online
ข่าวแนะนำ