"สมรสเท่าเทียม" รบ. เผย ปัจจุบันอนุญาตให้ใช้กฎหมายนี้แล้วใน 34 ประเทศ
โฆษกรัฐบาล เผย ปัจจุบันมีการอนุญาตให้ใช้ "กฎหมายสมรสเท่าเทียม" แล้วใน 34 ประเทศ ซึ่งถ้าไทยมีผลบังคับใช้ จะส่งผลให้เป็นลำดับที่ 35 ของโลก
โฆษกรัฐบาล เผย ปัจจุบันมีการอนุญาตให้ใช้ "กฎหมายสมรสเท่าเทียม" แล้วใน 34 ประเทศ ซึ่งถ้าไทยมีผลบังคับใช้ จะส่งผลให้เป็นลำดับที่ 35 ของโลก
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยินดีที่ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) (ฉบับที่ …) พ.ศ… หรือ ร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ผ่านวาระแรกจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนายกฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ (X) ว่า “ผมขอแสดงความยินดีกับพี่น้อง LGBTQIA+ ทุกท่านที่ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ได้ผ่านการโหวตวาระที่หนึ่งด้วยคะแนนท่วมท้น วันนี้ ก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นแล้วครับ“
ซึ่งการรับหลักการร่าง พ.ร.บ. ในครั้งนี้ ที่ประชุมสภาฯ ลงคะแนนเห็นด้วยถึง 369 เสียง โดยมีหลักการสำคัญคือ การรับรองการสมรสสำหรับบุคคลสองคนที่จะครอบคลุมบุคคลทุกเพศ จากเดิมที่อนุญาตให้แต่เฉพาะชาย - หญิง จดทะเบียนสมรสได้เท่านั้น
โดยในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมร่วมกันอย่างต่อเนื่องในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายสมรสเท่าเทียม กฎหมายรับรองเพศสภาพ การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ Bangkok World Pride และส่งเสริมงาน Pride Parade รวมทั้งการขยายสิทธิบัตรทองเพื่อคนข้ามเพศ อีกทั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรียังได้หารือและพบปะกับบุคคลสำคัญด้าน LGBTQIA+ และสมาชิกประธานผู้บริหารของ InterPride ซึ่งพร้อมเสนอให้กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพการจัดงาน World Pride Event ในปี 2028 อีกด้วย
“รัฐบาลคำนึงถึงการสร้างความเท่าเทียมในสังคมเป็นหลักสำคัญ โดยเชื่อมั่นว่า ประชาชนทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพที่พึงได้รับอย่างเสมอภาค ทุกเพศสภาพ เพศวิถี มีคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน การลงมติผ่านร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวแรกครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ และสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน และภาคประชาชน ให้เป็นกฎหมายเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง #LoveWins” นายชัย กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการอนุญาตให้ใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมแล้ว ใน 34 ประเทศและดินแดนทั่วโลก (https://www.hrc.org/resources/marriage-equality-around-the-world) ซึ่งเมื่อ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมของไทยมีผลบังคับใช้ จะส่งผลให้ประเทศไทยเป็นลำดับที่ 35 ของโลก และเป็นแห่งที่ 3 ในเอเชีย ต่อจาก ไต้หวันและเนปาล ที่อนุญาตให้ใช้กฎหมายดังกล่าวได้
ที่มา รัฐบาล
ภาพจาก AFP