ตรวจสุขภาพ “แรงงานไทยในอิสราเอล” พบ 2 รายเครียดต้องพบจิตแพทย์
เปิดผลการตรวจสุขภาพ “แรงงานไทยในอิสราเอล” พบ 2 ราย มีอาการเครียดต้องพบจิตแพทย์ แต่อาการไม่น่าเป็นห่วง
วันนี้ ( 13 ต.ค. 66 )กระทรวงสาธรณสุขรายงานผลการตรวจสุขภาพแรงงานไทยชุดแรก 15 คนที่เดินทางกลับจากประเทศอิสราเอลและถึงประเทศไทยเมื่อวานนี้ พบว่า ด้านสุขภาพจิตมีภาวะเครียด 2 คน นอนไม่หลัย 7 คน ต้องพบจิตแพทย์ 2 คน
ขณะที่การตรวจสุขภาพ มีผู้ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผล 4 คน โดย 1 คนที่ถูกยิงบริเวณขาด้านซ้ายได้ส่งตัวต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จ.ตาก
นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า ผลตรวจคัดกรองแรงงานทั้งหมดเมื่อวานนี้ ไม่พบอาการป่วยที่รุนแรง ประกอบกับแรงงานทั้งหมดประสงค์เดินทางกลับภูมิลำเนาพร้อมญาติ ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม)ได้จัดบริการรถส่งกลับภูมิลำเนาถึงบ้านตั้งแต่เมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตามทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีทีมคอยติดตามอาการทั้งทางร่างกายและสุขภาพจิตอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ระบุ การดูแลเยียวยาแรงงานนั่น กระทรวงแรงงาน มีเงินเยียวยาจากเงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนทำงานที่ไปทำงานในต่างประเทศให้แรงงานทั้ง 15 คน ซึ่งเป็นสมาชิกกองทุน รายละ 15,000 บาท
ส่วนแรงงานที่ ไม่ใช่สมาชิกกองทุน ของกระทรวงแรงงานจะประสานยังอิสราเอลเพื่อขอรับเงินดูแล จากกองทุนประกันสังคมของอิสราเอลกรณีได้รับบัตรเจ็บจากภาวะสงคราม มีบัตรแผลไม่เกินร้อยละ 19 ของร่างกาย จะได้รับเงินเยียวยาประมาณ 1.5 ล้านบาท หากอาการบาดเจ็บมากกว่าร้อยละ 20 จะได้รับเงินเยียวยาประมาณ 2.4 ล้านบาท หรือ กำหนดจ่ายเป็นรายเดือนเดือนละ 30,000 บาท
ส่วนการประสานเพื่อจัดหางานใหม่ให้กับกลุ่มแรงงาน เบื้องต้นแรงงานหลายคนต้องการไปทำงานในต่างประเทศ แต่ ไม่ขอกลับไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลเพราะสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัยซึ่งทางกระทรวงแรงงานจะได้ประสานเรื่องหางานในประเทศอื่นๆให้
ขณะนี้ กระทรวงแรงงานได้ตั้งวอล์รูม ในสำนักงานแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อให้ญาติตรวจสอบติดตาม รายชื่อแรงงานหรือคนในครอบครัวซึ่งจะมีการ อัปเดตข้อมูลตลอลเวลา
ส่วนกรณีที่มีข้อมูลข่าวระบุแรงงานไทยบางส่วนถูกขายต่อให้กับนายจ้างรายอื่นในอิสราเอล นาย ไพโรจน์ ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบเป็นลักษณะการเปลี่ยนนายจ้างใหม่ เนื่องจากนายจ้างเดิมไม่สามารถประกอบกิจการได้ ซึ่งสถานการณ์ในอิสราเอลไม่เคยมีการค้ามนุษย์เกิดขึ้น ดังนั่นข่าวดังกล่าวไม่ใช่ความจริง
ทั้งนี้ตามปกติกรณีแรงงานไทยที่จะเดินทางไปทำงานในอิสราเอลทางกระทรวงแรงงานจะให้คำแนะนำและข้อมูลสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยในการทำงานเนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่มีการปะทะกันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแรงงานส่วนใหญ่จะทราบข้อมูลและนายจ้างเองก็มีพื้นที่หลบภัยรองรับไว้กรณีเกิดเหตุ
ภาพจาก : TNN ONLINE