ประวัติ "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เจ้าของฉายามือปราบสายธรรมะ
เปิดประวัติ "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 14 เจ้าของฉายา มือปราบสายธรรมะ และ โรโบคอปสายบุญ
เปิดประวัติ "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 14 เจ้าของฉายา มือปราบสายธรรมะ และ โรโบคอปสายบุญ
พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 14 เกิดเมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2507 ที่อำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี เป็นบุตรคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 5 คน ของนายนิพนธ์และนางสมนึก สุขวิมล และเป็นน้องชายของ พล.ต.อ. สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์และเลขาธิการพระราชวัง
ประวัติการศึกษา
-จบการศึกษาระดับประถมศึกษาจาก โรงเรียนพันธะศึกษา ระดับมัธยมศึกษาจาก โรงเรียนโยธินบูรณะ
-ระดับปริญญาตรีจาก คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รุ่นที่ 38
- จบปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณทิต จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม
เข้าสู่วงการตำรวจ
พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ เคยเป็นพนักงานของบริษัทน้ำมันคาลเท็กซ์ 7 ปี ก่อนตัดสินใจลาออกมาเป็นข้าราชการตำรวจ โดยการเข้าหลักสูตรการฝึกอบรมผู้มีวุฒิทางด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ เพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร (กอต.) รุ่นที่ 4 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ วัน อยู่บำรุง
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เริ่มต้นทำงานในเส้นทางตำรวจในตำแหน่ง รองสารวัตร กองกำกับการสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 จากนั้นโยกย้ายมาเป็นรองสารวัตรที่กองปราบปราม แล้วขึ้นไปเป็น สารวัตร ที่ตำรวจท่องเที่ยว ก่อนจะโยกมาเป็นสารวัตรกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองปราบฯ และได้ขึ้นเป็นรองผู้กำกับ ผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ และรองผู้บังคับการปราบปรามตามลำดับ
ตำแหน่ง
-1 ตุลาคม พ.ศ. 2561 - ผู้บังคับการกองบังคับการถวายปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น กองบังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 และ กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ ตามลำดับ)
-1 ตุลาคม พ.ศ. 2562 - รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
-1 ตุลาคม พ.ศ. 2563 - ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
-1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 - ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
-1 ตุลาคม พ.ศ. 2565 - รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ฉายา มือปราบสายธรรมะ
ในระหว่างการปฏิบัติราชการตำรวจ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ ได้รับฉายา "มือปราบสายธรรมะ" และ "โรโบคอปสายบุญ" เนื่องจากบรรดาสื่อมวลชนสายอาชญากรรม - ตำรวจ ขนานนามให้ เพราะมักจะเป็นนายตำรวจที่ใช้หลักธรรมในการทำงาน และเดินสายปฏิบัติธรรมตามสถานที่ต่างๆ จึงได้รับฉายานี้
ที่มา TNN Online รวบรวม/wikipedia
ภาพจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ