sacit ประกาศศักดางานหัตถศิลป์ไทย สร้างแบรนดิ้งลุยตลาดต่างประเทศ
สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) ประกาศศักดางานหัตถศิลป์ไทยในแดนปลาดิบ สร้างแบรนดิ้ง ดันคราฟต์ไทยลุยตลาดต่างประเทศ ในงาน LIFESTYLE Week TOKYO 2023
สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) ประกาศศักดางานหัตถศิลป์ไทยในแดนปลาดิบ สร้างแบรนดิ้ง ดันคราฟต์ไทยลุยตลาดต่างประเทศ ในงาน LIFESTYLE Week TOKYO 2023
สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ sacit โชว์ศักยภาพงานศิลปหัตถกรรมไทย ในงาน LIFESTYLE Week TOKYO 2023 ระหว่างวันที่ 19-21 กรกฎาคม 2566 ณ Tokyo Big Sight ประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างแบรนดิ้งภาพลักษณ์คุณค่าภูมิปัญญาหัตถศิลป์ไทย สร้างมูลค่าเพิ่มคราฟต์ไทย ขยายตัวสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างยั่งยืน พร้อมดึง “เลดี้ปราง” ร่วมสร้าง Soft Power ผ้าไทย อวดสายตาชาวโลกตามจุดแลนด์มาร์กสำคัญของญี่ปุ่น
นายภาวี โพธิ์ยี่ รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย หรือ sacit กล่าวว่า sacit มีบทบาทสำคัญในการสืบสาน ส่งเสริมคุณค่า ยกย่องเชิดชู รักษา พัฒนา และเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญางานศิลปหัตถกรรมไทย รวมทั้งส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับอย่างแพร่หลายมากขึ้น อีกทั้ง sacit มีนโยบายผลักดัน Soft Power เพื่อขับเคลื่อน "เศรษฐกิจสร้างสรรค์" สู่ระดับโลก โดยอาศัยจุดแข็งของทุนทางวัฒนธรรมของไทย ที่สามารถจับต้องได้อย่างศิลปหัตถกรรม สร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่าให้ศิลปหัตถกรรมไทยมีความแตกต่าง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้สร้างสรรค์งานหัตถกรรมไทย
ซึ่งที่ผ่านมา sacit ได้ผลักดันผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมที่เป็น ให้เป็นที่รู้จักมาโดยตลอด สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย เกิดการบริโภคงานหัตถกรรมไทยอย่างแพร่หลาย ในปีนี้ sacit ได้เดินหน้าผลักดันผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย ด้วยการอวดโฉมหัตถกรรมไทยสู่สายตาชาวโลก ให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติมากยิ่งขึ้น โดยได้นำงานศิลปหัตถกรรมไทยหลากหลายแขนงทั่วประเทศไทย ทั้งแบบดั้งเดิมที่คงอัตลักษณ์และสะท้อมภูมิปัญญาความเป็นไทย และทั้งที่มีความร่วมสมัย โดดเด่นในด้านดีไซน์ มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
อาทิ คร่ำทอง-ถมทอง , ลงรักประดับมุก , เครื่องเคลือบศิลาดล , กระเป๋าย่านลิเภา , เครื่องจักสาน , เครื่องเบญจรงค์ 12 นักษัตร , ผ้าฝ้ายออร์แกนิกและผ้าไหมย้อมสีจากธรรมชาติ , โคมไฟจากไม้กระถินณรงค์ , ชุดกิโมโนบาติกไหมไทยและโอบิที่เป็นการผสมผสาน 2 วัฒนธรรมไทย-ญี่ปุ่นได้อย่างลงตัวและสวยงาม ไปโชว์ยังประเทศญี่ปุ่น ในงาน LIFESTYLE Week TOKYO 2023 ระว่างวันที่ 19-21 กรกฎาคม 2566 ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมผลิตภัณฑ์ชั้นนำประเภทของขวัญ เครื่องใช้ในบ้าน ผลิตภัณฑ์แฟชั่น รวมถึงงานคราฟต์ ที่ยิ่งใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น มีผู้สนใจเข้าชมงานนับหมื่นคนต่อปี นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างแบรนดิ้งส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับศิลปหัตถกรรมไทยให้เป็นที่รู้จักในเวทีนานาชาติ
นายภาวี ยังกล่าวต่อว่า ได้เชิญตัวแทนผู้สร้างสรรค์งานหัตถกรรมไทยร่วมเดินทางไปในครั้งนี้ด้วย โดยคัดเลือกจากครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และสมาชิกของ sacit ที่สร้างสรรค์ผลงานโดยใช้ทักษะเชิงช่างชั้นสูง ทรงคุณค่า มีการต่อยอดความคิดสร้างสรรค์และพัฒนาเทคนิควิธีการใหม่ ๆ และที่สำคัญคือ เป็นผู้ที่มีความพร้อมในการพัฒนาศักยภาพด้านงานหัตถกรรมของตนอยู่ตลอด เพื่อไปศึกษาเทรนด์ความต้องการของคนญี่ปุ่น และเปิดโอกาสในการขยายฐานตลาดงานศิลปหัตถกรรมไทยในญี่ปุ่น รวมทั้งสร้างเครือข่ายคนรักงานศิลปหัตถกรรมไทยระหว่างผู้สร้างสรรค์งานหัตถกรรมของไทยกับต่างชาติ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทักษะเชิงช่างระหว่างกัน ตลอดจนการสร้างภาคีเครือข่ายด้านงานศิลปหัตถกรรม เชื่อมโยงองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ เกิดการต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาศักยภาพ ผสมผสานกับจินตนาการอันกว้างไกลของคนไทย
นอกจากนี้ sacit ยังดึง Key Opinion Leader ชื่อดังอย่าง “เลดี้ปราง” หรือคุณกัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล ดารานักแสดงชื่อดัง ในฐานะ Friend of sacit ตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่จะสร้าง Soft Power ผ้าไทยและงานศิลปหัตถกรรมไทยของสมาชิกในมุมมองใหม่ เป็นกระบอกเสียงประกาศความงดงาม ความคิดสร้างสรรค์ของงานศิลปหัตถกรรมไทย และความภาคภูมิใจในงานศิลปหัตถกรรมไทยทำให้เกิดการรับรู้ไปในสังคมไทยและประชาคมโลก มาทำกิจกรรมสร้างสีสันและดึงดูดความสนใจตามแลนด์มาร์กสำคัญและแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ผ่านการถ่ายแฟชั่นผ้าไทยร่วมสมัย ดีไซน์สวยเก๋ สามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
โดยเฉพาะกางเกงมวยผ้าไทย จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่คนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ความสนใจเป็นอย่างมากการร่วมงาน LIFESTYLE Week TOKYO 2023 ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นการประกาศศักดาให้ทั่วโลกได้รับรู้ว่าประเทศไทยมีทุนทางวัฒนธรรมด้านงานศิลปหัตถกรรม ที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาและอัตลักษณ์ความเป็นไทยที่มีเสน่ห์อันน่าประทับใจ อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้ผู้สร้างสรรค์งานหัตถกรรมไทยเกิดแรงบันดาลใจ ความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนาต่อยอด และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อยกระดับงานศิลปหัตถกรรมไทยให้เติบโต สร้างมูลค่าเพิ่มและผลักดัน Soft Power ไทยให้ขับเคลื่อน "เศรษฐกิจสร้างสรรค์" ไปสู่ระดับสากลได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ข้อมูลจาก สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ sacit
ภาพจาก สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ sacit