เตือนสายแว้น! ขี่จยย.ไม่สวมหมวก อาจเจอตัดแต้มจนเหลือ 0 พักใบอนุญาต 3 เดือน
ตำรวจราจร เตือนสิงห์มอเตอร์ไซค์ ดีเดย์ใช้ระบบตัดแต้มใบขับขี่ 9 ม.ค. เมินใส่หมวกกันน็อค อาจถูกตัดแต้มเหลือ 0 พักใบอนุญาต 3 เดือน
วันนี้ ( 8 ธ.ค. 65 )หลังจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกใบสั่งจราจรรูปแบบใหม่ แบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Ticket ที่เชื่อมโยงฐานข้อมูลหับระบบสารสนเทศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแบบเรียลไทม์ สามารถสืบค้นประวัติ และตัดแต้มใบขับขี่ รวมไปถึงประวัติการกระทำความผิด หรือ หมายจับต่างๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจสอบประวัติของผู้ขับขี่คนดังกล่าวได้ทันที
ตอนนี้ตำรวจจราจรเริ่มใช้เครื่องออกใบสั่งจราจรรูปแบบใหม่ในหลายพื้นที่แล้ว รวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่ระบบการตัดแต้มใบขับขี่ จะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 9 มกราคม 2566 นี้
พ.ต.ท.ศุภชัย จันทรา รองผู้กำกับการกลุ่มงานจารจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ตำรวจจราจรเชียงใหม่ ได้เร่งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติตามกฏจราจร เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร และลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนนในพื้นที่ โดยเฉพาะหากระบบการตัดแต้มใบขับขี่เริ่มมีผลบังคับใช้ เพราะในจังหวัดเชียงใหม่ยังพบการกระทำผิดเกี่ยวกับกฏหมายจราจรต่อเนื่อง สถิติการจับกุมผู้ฝ่าฝืนกฏจราจรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พบการกระทำความผิดไม่สวมหมวกนิรภัย มากถึง 2,751 ราย รองลงมา คือ ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ 2,407 ราย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 87 ราย และขับรถย้อนศร 14 ราย
ส่วนสาระสำคัญของระบบนี้ คือ กำหนดให้ผู้ที่มีใบอนุญาตขับขี่แต่ละราย มีคะแนนความประพฤติคนละ 12 คะแนน หากทำผิดกฎจราจรจะถูกตัดคะแนนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ส่วนการตัดคะแนนแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ตั้งแต่ 1-4 คะแนน คือ ตัด 1 คะแนน ขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ , ตัด 2 คะแนน เช่น ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร (ฝ่าไฟแดง) , ตัด 3 คะแนน เช่น ขับรถชนแล้วหนี และตัด 4 คะแนน เช่น เมาแล้วขับ ขับรถในขณะเสพยาเสพติด
หากผู้ขับขี่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ทันทีเป็นเวลา 90 วัน หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายใน 3 ปี อาจจะถูกสั่งพักใช้มากกว่า 90 วัน และหากยังถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่อีกเป็นครั้งที่ 4 อาจถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ภาพจาก : AFP