ขนส่งฯ ย้ำขอรับใบขับขี่ใหม่-ต่อใบขับขี่ ต้องมีใบรับรองแพทย์

นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องการขอรับและต่อใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล(รถยนต์/รถจักรยานยนต์) สามารถจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue (เลือกสำนักงานขนส่ง วันและเวลาที่สะดวก) เพื่อเข้าตรวจสอบเอกสาร รับการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย การอบรม การทดสอบข้อเขียน และการทดสอบขับรถ ได้ที่สำนักงานขนส่ง โดยแนะนำ ให้จัดเตรียมเอกสารประกอบคำขอรับ/ต่ออายุใบอนุญาตให้ครบถ้วนเพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ ดังนี้ 


ขนส่งฯ ย้ำขอรับใบขับขี่ใหม่-ต่อใบขับขี่ ต้องมีใบรับรองแพทย์

สรุปข่าว

กรมการขนส่งทางบก ย้ำผู้ที่ต้องการขอรับและต่อใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล ต้องนำใบรับรองแพทย์มาเป็นหลักฐานประกอบแบบคำขอ โดยใบรับรองแพทย์ต้องมีอายุไม่เกิน 1 เดือน นับแต่วันที่ตรวจร่างกาย

การขอรับใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลใหม่ (ไม่เคยมีมาก่อน) 

- เอกสารหลักฐาน 1. บัตรประชาชนตัวจริง 2. ใบรับรองแพทย์ (ค่าธรรมเนียม : รถจักรยานยนต์ 105 บาท/รถยนต์ 205 บาท)

เปลี่ยนประเภทใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล(ชั่วคราว) ชนิด 2 ปีเป็น 5 ปี - เอกสารหลักฐาน 1. บัตรประชาชนตัวจริง 2. ใบรับรองแพทย์ 3. ใบอนุญาตขับรถเดิมตัวจริง(ค่าธรรมเนียม : รถจักรยานยนต์ 255 บาท/รถยนต์ 505 บาท)

การต่ออายุใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล ชนิด 5 ปีเป็น 5 ปี

-เอกสารหลักฐาน 1. บัตรประชาชนตัวจริง 2. ใบรับรองแพทย์ 3. ใบอนุญาตขับรถเดิมตัวจริง

4. ผลการอบรม e-Learning (ค่าธรรมเนียม : รถจักรยานยนต์ 255 บาท/รถยนต์ 505 บาท)


ขอรับและต่อใบอนุญาตขับรถ ต้องนำใบรับรองแพทย์

ทั้งนี้ ผู้ต้องการขอรับและต่อใบอนุญาตขับรถ ต้องนำใบรับรองแพทย์ตามรูปแบบมาตรฐาน ที่แพทยสภากำหนด และมีอายุไม่เกิน 1 เดือนนับแต่วันที่ตรวจร่างกายมาเป็นหลักฐานประกอบแบบคำขอรับและต่อใบอนุญาตฯ ซึ่งใบรับรองแพทย์เป็นเอกสารหลักฐานสำคัญที่แสดงว่าผู้นั้นไม่มีโรคประจำตัวหรือสภาวะโรคที่เป็นอันตรายขณะขับรถ ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจว่าผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขับรถจะมีความพร้อมสำหรับการขับรถบนท้องถนนอย่างปลอดภัย 

สำหรับกรณีทำใบอนุญาตขับรถหายสามารถใช้แค่บัตรประชาชนตัวจริง(ไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์และไม่ต้องแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ)เข้ารับบริการได้สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศโดยไม่ต้องจองคิว(walk in) หากมีข้อสงสัยในการรับบริการทำธุรกรรมกับกรมการขนส่งทางบกสามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนกรมการขนส่งทางบก 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มาข้อมูล : กรมการขนส่งทางบก

ที่มารูปภาพ : TNN ONLINE