ประกันสังคมลงพื้นที่นครศรีธรรมราช มอบกำลังใจให้ผู้ทุพพลภาพ
ประกันสังคมมอบสุขลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มอบกำลังใจให้ผู้ทุพพลภาพ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และสร้างความเท่าเทียมในสังคม
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม มอบหมายให้นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ พร้อมคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ โดยมีนางพิชญาภรณ์ กุลเศรษฐ ประกันสังคมจังหวัดนครศรีธรรมราช
นางสาวสุภาวดี พระภายไชย ผู้อำนวยการศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานภาค 5 และเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ทุพพลภาพในจังหวัดนครศรีธรรมราช นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ภารกิจการลงพื้นที่ติดตามตรวจเยี่ยมผู้ทุพพลภาพสิทธิประกันสังคม ถือว่าเป็นหนึ่งในภารกิจที่สำคัญ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และสร้างความเท่าเทียมในสังคม ล่าสุดได้ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประกันตนทุพพลภาพในโครงการ สปส.มอบสุข จำนวน 3 ราย ได้แก่
1. นางศิริพร ไพรสณท์ ผู้ประกันตนมาตรา 40 รับสิทธิทุพพลภาพจากกองทุนประกันสังคมเนื่องจากการลุกลามของมะเร็งต่อมไทรอยด์ มีก้อนขนาดใหญ่บริเวณใบหน้า ทำให้กลืนอาหารลำบาก ใบหน้าผิดรูป และเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มแขนขวาหัก ทำให้แขนข้างขวาอ่อนแรง สามารถช่วยเหลือตนเองได้บ้าง ปัจจุบันได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพ จากสำนักงานประกันสังคม เดือนละ 650 บาท
2. นายทวี บุญชากร ผู้ประกันตนมาตรา 33 รับสิทธิทุพพลภาพจากกองทุนประกันสังคม เนื่องจากป่วยด้วยโรคลิ้นหัวใจรั่วและลิ่มเลือดอุดตันในสมอง ส่งผลให้ร่างกายซีกซ้ายอ่อนแรง สามารถเดินได้ดีขึ้นเนื่องจากมีการทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง และสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ ปัจจุบันได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพ จากสำนักงานประกันสังคม เดือนละ 3,900 บาท
3. นายสุชาติ ดวงใหญ่ ผู้ประกันตนมาตรา 39 รับสิทธิทุพพลภาพจากกองทุนประกันสังคมเนื่องจากเส้นเลือดฝอยในสมองแตก เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก แขนและขาข้างขวาอ่อนแรง สามารถเดินได้เองแต่ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงเนื่องจากกล้ามเนื้ออ่อนแรง สามารถใช้มือและแขนพยุงตัวได้แต่ใช้งานไม่ถนัด ปัจจุบันได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพ จากสำนักงานประกันสังคม เดือนละ 2,400 บาท
ด้านนายสุชาติ ดวงใหญ่ ผู้ประกันตนมาตรา 39 กล่าวว่า “ถ้าไม่มีประกันสังคมชีวิตคงแย่และลำบากมากกว่านี้ เพราะนอกจากจะไม่สามารถทำงานประจำมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัวได้เหมือนเดิมแล้ว ยังต้องหาเงินเพื่อรักษาและทำกายภาพบำบัด แต่เพราะมีสิทธิประกันสังคม ทำให้เบิกค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทางสำหรับการไปทำกายภาพบำบัด อีกทั้งยังได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้จากสำนักงานประกันสังคมทุกเดือน ซึ่งสามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้”
ภาพจาก สำนักงานประกันสังคม