กรมบัญชีกลาง ปรับเกณฑ์ขยายสิทธิเบิกจ่ายตรงค่ารักษาโรคมะเร็ง-โลหิตวิทยา
กรมบัญชีกลาง ปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งและโลหิตวิทยา ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง มีผลใช้บังคับ 1 เม.ย.65 เป็นต้นไป
วันนี้ (5 เม.ย.65) น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลาง ได้ดำเนินงานภายใต้คณะทำงานพิจารณาแนวทางปรับปรุงและพัฒนาระบบเบิกจ่ายค่ายากลุ่มโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนสมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโลหิตวิทยา และเภสัชกรเชี่ยวชาญ โดยดำเนินการปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งและโลหิตวิทยา ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาที่มีค่าใช้จ่ายสูงมาอย่างต่อเนื่อง
โดยคณะทำงานฯ มีมติเห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ฯ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาตามความเหมาะสม จำเป็น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ปรับปรุงเงื่อนไขข้อบ่งชี้ และขยายเงื่อนไขข้อบ่งชี้ในการใช้ยาที่ต้องลงทะเบียนเพื่อขออนุมัติการใช้ยาในระบบ OCPA ดังนี้
1.1 ปรับปรุงเงื่อนไขข้อบ่งชี้การใช้ยา Rituximab จากเดิม สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง Non-Hodgkin Lymphoma ชนิด Diffuse Large B-Cell Lymphoma (DLBCL) ชนิด Follicular Lymphoma (FCL) ชนิด Mantle Cell Lymphoma (MCL) และชนิด Marginal Zone Lymphoma (MZL) ให้ขยายสิทธิผู้ป่วยในการเข้าถึงการรักษาเพิ่มขึ้น
1.2 ขยายเงื่อนไขข้อบ่งชี้การใช้ยา ได้แก่
(1) ยา Rituximab จากเดิม 6 ข้อบ่งชี้ เป็น 10 ข้อบ่งชี้ เพื่อให้ครอบคลุมผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง Non-Hodgkin Lymphoma ชนิด Burkitt Lymphoma/Leukemia (BL) และชนิด Lymphoplasmacytic Lymphoma (LPL) หรือ Waldenstrom macroglobulinemia ในผู้ป่วยผู้ใหญ่ และสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง Non-Hodgkin Lymphoma ชนิด Burkitt Lymphoma/Leukemia (BL) และชนิด Diffuse Large B-Cell Lymphoma (DLBCL) ในผู้ป่วยเด็ก
(2) ยา Bortezomib จากเดิม 1 ข้อบ่งชี้ เป็น 2 ข้อบ่งชี้ เพื่อให้ครอบคลุมผู้ป่วยโรค Systemic light chain amyloidosis
2. ปรับปรุงเงื่อนไขข้อบ่งชี้ในการใช้ยาที่ไม่ต้องลงทะเบียนเพื่อขออนุมัติการใช้ยาในระบบ OCPA ได้แก่ ยา Azacitidine จากเดิม สำหรับผู้ป่วยโรค Myelodysplastic syndrome ชนิดกลุ่มความเสี่ยงสูง และโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน ชนิดมัยอิลอยด์ (Acute Myeloid Leukemia: AML) ในผู้ป่วยสูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ให้ขยายสิทธิผู้ป่วยในการเข้าถึงการรักษาเพิ่มขึ้น
3. กำหนดอัตราเบิกจ่ายค่ายา 4 รายการ ได้แก่ Azacitidine, Bendamustine, Bortezomib และ Rituximab เพื่อเป็นการกำกับการเบิกจ่ายเงินให้อยู่ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณ โดยผู้ป่วยจะยังคงได้รับยาที่มีคุณภาพตามมาตรฐานการรักษาและมีความปลอดภัย
"การปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง และโลหิตวิทยา ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง มีวัตถุประสงค์เพื่อดูแลผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวที่ใช้สิทธิข้าราชการ ให้สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุข และการรักษาที่จำเป็นอย่างสมเหตุผล
โดยหลักเกณฑ์ตามข้อ 1 - 2 จะมีผลใช้บังคับสำหรับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นไป สำหรับอัตราเบิกจ่ายค่ายาตามข้อ 3 ให้มีผลบังคับใช้สำหรับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป" อธิบดีกรมบัญชีกลาง ระบุ.
ภาพจาก แฟ้มภาพ AFP