นายกฯ คาดเตรียมนำเรื่อง ‘กฎหมายสมรสเท่าเทียม’ เข้าครม. 31 ตุลาคม 2566
นายกฯ คาดเตรียมนำเรื่องพรบ.สมรสเท่าเทียมเข้าสู่การประชุมครม. 31 ตุลาคม 2566 นี้ หากผ่านการพิจารณาเตรียมนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ เป็นวาระแรก
นายกฯ คาดเตรียมนำเรื่องพรบ.สมรสเท่าเทียมเข้าสู่การประชุมครม. 31 ตุลาคม 2566 นี้ หากผ่านการพิจารณาเตรียมนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ เป็นวาระแรก
วันนี้ (26 ตุลาคม 2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมเกี่ยวกับกฎหมายสมรสเท่าเทียม/กฎหมายรับรองเพศสภาพ/การยกเลิกการปราบปรามการค้าประเวณี/การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ Bangkok World Pride และส่งเสริมงาน Pride Parade/การขยายสิทธิบัตรทองเพื่อคนข้ามเพศ โดยมีปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนหน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่า นายกรัฐมนตรีคาดว่า จะนำเรื่องกฎหมายสมรสเท่าเทียมเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 31 ตุลาคม 2566 นี้ และจะบรรจุเป็นวาระแรกที่จะเข้าในการเปิดสมัยประชุมสภาฯ ต่อไป ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นประมาณต้นเดือนธันวาคม
นายกรัฐมนตรีให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลพร้อมจะผลักดันสนับสนุนกฎหมายสมรสเท่าเทียม รวมถึงกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมจะเป็นคนเจรจากับทุกหน่วยงานเพื่อทลายกำแพงดังกล่าว ขอให้ทุกคนอดทนไว้ ต้องการให้วางแผนทำโรดแมปผ่านการพูดคุยหารือจากทุกภาคส่วนในวงกว้าง เพื่อที่รัฐบาลจะได้สนับสนุนอย่างเต็มที่ ไม่ต้องการให้เสียเวลา เมื่อรัฐบาลยื่นต่อสภาฯ พิจารณาต้องการให้ผ่านในรอบเดียว
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาที่เป็นกังวลคือเรื่องของความมั่นคง อย่างเช่น เรื่องการเกณฑ์ทหาร ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ต้องการจะเข้ารับการเป็นทหาร หากมีการเปลี่ยนแปลงคำนำหน้าจะต้องเข้ารับการตรวจเลือกเป็นทหารเกณฑ์ตามกฎหมาย ตอนนี้รัฐบาลกำลังเปลี่ยนการเกณฑ์ทหารให้เป็นความสมัครใจ ในส่วนเรื่องการยกเลิกการค้าประเวณี
นายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงใยต่อสังคมและวัฒนธรรมของไทยที่อยู่รวมกันอย่างหลากหลาย แต่พร้อมจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เกิดประโยชน์ สำหรับเรื่องการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ Bangkok World Pride และส่งเสริมงาน Pride Parade
นายกรัฐมนตรียืนยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุก ๆ ด้าน รวมถึงเรื่องงบประมาณ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน Bangkok World Pride 2028 ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แสดงให้เห็นถึงการยอมรับและเปิดกว้างทางความคิดมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ขอให้ทุกคนสบายใจ ยืนยันส่วนตัวผลักดัน สนับสนุน ส่งเสริมอย่างเต็มที่
ข้อมูลจาก รัฐบาลไทย
ภาพจาก AFP