เช็กเสียง!! หนุนเพื่อไทย 314 เสียงจับมือแก้วิกฤตชาติ
ชัดเจนแล้วว่าในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ เวลา17.30 น. เราจะรู้ว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้คาดการณ์ไว้
ชัดเจนแล้วว่าในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ เวลา17.30 น. เราจะรู้ว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้คาดการณ์ไว้
แต่มาดูความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่มีเสียง 141 เสียง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เดินหน้ารวมเสียงและทยอยเปิดตัวพรรคการเมืองที่สนับสนุนร่วมจัดตั้งรัฐบาล ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง, พรรคชาติไทยพัฒนา (10 เสียง), พรรคประชาชาติ (9 เสียง), พรรคเพื่อไทรวมพลัง (2 เสียง), พรรคชาติพัฒนากล้า (2 เสียง), พรรคเสรีรวมไทย (1 เสียง), พรรคท้องที่ไทย (1 เสียง) และ พรรคพลังสังคมใหม่ (1 เสียง) ล่าสุด พรรครวมไทยสร้างชาติ (36 เสียง) ที่ปิดดีลกันได้เมื่อช่วงค่ำวานนี้
โดยนายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมาขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ให้เกียรติและเห็นถึงศักยภาพของพรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยันว่าพรรคไม่ได้มีการต่อรองเก้าอี้แต่อย่างใด แต่เห็นตรงกันว่าถึงเวลาที่บ้านเมืองควรจะมีความสามัคคีปรองดอง และร่วมกันนำพาประเทศชาติไปสู่ความสงบสุข และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
จากนี้ไปต้องจับตาไปที่พรรคพลังประชารัฐ แม้ยังไม่ได้เปิดตัวเป็นพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และกรรมการบริหารพรรค พปชร. ออกมายืนยันว่า สส. ทั้งหมดของพรรค 40 คน จะโหวตสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย
สอดคล้องกับที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท. ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากนี้พรรค พท.เตรียมแถลงร่วมกับทุกพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการอีกครั้งก่อนโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 สิงหาคม ทำให้ขณะนี้พรรค พท.สามารถรวมเสียงพรรคการเมืองที่สนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค พท.ได้แล้ว ขณะนี้รวม 314 เสียง นั่นแสดงว่า 40 เสียงที่เพิ่มมาเป็นเสียงจากพลังประชาชารัฐอย่างแน่นอน
เมื่อทั้งหมดนี้โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และ สเต็ปถัดไป ก็จะผลักให้ฝ่ายค้าน ประกอบไปด้วย พรรคก้าวไกล 151 เสียง พรรคไทยสร้างไทย 6 เสียง พรรคเป็นธรรม 1 เสียง และ พรรคประชาธิปัตย์ 25 เสียง รวมถึงอีก 3 พรรคเล็ก รวมแล้วได้ 186 เสียง
จุดที่ยังไม่นิ่ง อีก 1 จุด คือ ประชาธิปัตย์ เพราะ แม้ว่านายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรค จะออกมายอมรับว่าไปพบ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกงมา และถูกจับตาว่า ประชาธิปัตย์จะพลิกขั้วมาร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยหรือไม่ แต่ต้องอย่าลืมว่า เพื่อไทยยังไม่เคยพูด ยังไม่เคยประกาศ หรือ นัดคุยกับประชาธิปัตย์ เหมือนที่คุยกับพรรคอื่นเลย และวันนี้เสียงในมือมีถึง 314 เสียงแล้ว เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากแล้ว
นั่นหมายความว่า พรรคเพื่อไทย ต้องตามหาเสียงสนับสนุนไม่ว่ามาจาก สส. หรือ สว. อีกอย่างน้อย 61 เสียง ถึงจะผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำตามรัฐธรรมนูญ เสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยต่อที่ประชุมรัฐสภา แล้วได้รับแรงสนับสนุนให้เป็นนายกฯ ด้วยคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่ของสองสภา หรือ 375 จาก 747 เสียง (สส. 498 คน และ สว. 249 คน)ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยาก คาดว่าสว.จะเทคะแนนเสียงส่งนายเศรษฐานั่งนายกฯคนที่ 30 เนื่องจากสว.ส่วนใหญ่มาจากสายพรรครวมไทยสร้างชาติและพลังประชารัฐอยู่แล้ว
แม้จะปีดดีลพรรครวมไทยสร้างชาติได้แล้ว แต่ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว เพราะพรรคอันดับที่ 2 อย่างพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ประกาศชัดเจนว่า ก่อนจะโหวตนายกฯในวันที่ 22 ส.ค.นี้ จะต้องเคลียร์ตำแหน่งรัฐมนตรีกันให้เรียบร้อยเสียก่อน ซึ่งตอนนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ประสานเพื่อนัดคุยกับพรรคภูมิใจไทย แต่เมื่อวานนี้เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรค ระบุว่ารอเพื่อไทยเจรจากับพรรคอื่นให้ลงตัวก่อน
ดังนั้นเราต้องมาลุ้นกันวันต่อวันว่าเกมจะพลิกอย่างไรหรือไม่กว่าจะถึงวันที่ 22 สิงหาคมนี้ เนื่องจากยังพอมีเวลาที่จะเกิดคลื่นอีกหลายระลอก