จับตา! คาดโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี 13 กรกฎาคม 2566 เปิดรูปแบบ-ขั้นตอนเสนอชื่อ
ไทม์ไลน์การเมือง คาดเปิดประชุมสภา โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี 13 กรกฎาคม 2566 เปิดรูปแบบและขั้นตอนการเสนอชื่อ
ไทม์ไลน์การเมือง คาดเปิดประชุมสภา โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี 13 กรกฎาคม 2566 เปิดรูปแบบและขั้นตอนการเสนอชื่อ
ไทม์ไลน์การเมืองหลังวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 รัฐบาลรักษาการได้ เปิดประชุมสภาโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 โดยได้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร แบบไร้คู่แข่ง จากการเสนอชื่อโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
- 13 กรกฎาคม 2566 จะเป็นการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี
- 21 กรกฎาคม 2566 แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
- คาดว่าปลายเดือนกรกฎาคม 2566 คณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลรักษาการ พล.อ. ประยุทธ์ สิ้นสุดการทำงาน
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการเลือกนายกรัฐมนตรีและการตั้งคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด ซึ่งจะทำให้รัฐบาลที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี จะรักษาการต่อจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่
สำหรับขั้นตอนการเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
ตามบทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญ 60 (มาตรา 272) การพิจารณาให้ความเห็นชอบนายกรัฐมตรีให้กระทำในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา (ส.ส. และส.ว. ประชุมร่วมกัน)
รูปแบบและขั้นตอนการเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี
- ส.ส. เสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีจากบัญชีรายชื่อแคนดิเดตของพรรคที่มีจำนวนส.ส. ตั้งแต่ 25 คนขึ้นไป
- การเสนอชื่อต้องมีส.ส. รับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนส.ส. ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่
- การเลือกนายกรัฐมนตรีให้กระทำเป็นการเปิดเผยโดยเลขาธิการจะเรียกชื่อสมาชิกส.ส. และส.ว. ตามลำดับอักษรเป็นรายบุคคลและให้ออกเสียงโดยการกล่าวชื่อบุคคลที่เห็นชอบ
- ส.ส. 500 เสียงส.ว. 250 เสียงรวมกัน 750 เสียงผู้ที่ได้คะแนน 376 เสียงขึ้นไปจึงจะได้รับเลือกเป็นนายกฯก่อนจะโปรดเกล้าฯต่อไป
จากนั้น นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ตั้งฝ่ายบริหารชุดใหม่ก่อนนำชื่อคณะรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯและนำคณะรัฐมนตรี ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนรับตำแหน่ง มีการคาดการณ์ว่าเอาจได้รัฐบาลใหม่ราวต้นเดือนสิงหาคม 2566
ภาพจาก Thaigov