เจ้าสาวโวยช่างภาพถ่ายเวดดิ้งงานแต่งงาน เสียไปครึ่งแสน แต่ภาพออกมาไม่ถูกใจ

วันนี้ (25 พ.ย.64) ในโลกโซเชียลได้มีการแชร์โพสต์ของเจ้าสาวรายหนึ่ง เจ้าของสวนกล้วยด่าง โพสต์ภาพพรีเวดดิ้งจากการถ่ายภาพของสตูดิโอแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก ในราคากว่า 50,000 บาท โดยพบว่ามือและเท้ามีขนาดยาว อีกทั้งการจัดแสงของส่วนประกอบในภาพที่ดูไม่กลมกลืน 

โดยผู้โพสต์ระบุว่า เสียไปครึ่งแสน แขนยังไม่ได้จับ อ๋อมันเป็นมุมมองของช่างภาพ ที่คนธรรมดาไม่เข้าใจ ครึ่งแสนที่ลงทุนไป ถ่ายออกมาได้แค่นี้ เจ้าสาวคนไหนจะแต่งงานรายต่อไป ก็ดูช่างภาพดีๆ นะ จะแต่งหน้าสวยแค่ไหน ชุดออกแบบดีแค่ไหน ช่างภาพพังทุกอย่างคือจบ พัง

เทคนิคของช่างคือ..ถ่ายเท้ายาวเป็นข้อศอก มือยาวเท่าแม่นาคพระโขนงได้ โดยตนเองอาจจะไม่เข้าใจเทคนิคนี้ หรือเป็นเจ้าสาวที่เรื่องมากเกินไป ส่งไฟล์ภาพหลังงานหมั้นจบแล้ว

นอกจากนี้ เจ้าตัวได้อัปเดตความคืบหน้า โดยได้มีการติดต่อขอความรับผิดชอบ โดยการถ่ายแก้ใหม่ รวมทั้งรับผิดชอบค่าใช้จ่าย แต่ทางช่างภาพไม่ยอม 

ขณะเดียวกัน ช่างภาพรายดังกล่าวได้มาแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ของเจ้าสาวคนดังกล่าว ระบุว่า ถ่ายวันที่ 28 ต.ค. และส่งก่อนวันงานหมั้นที่ไม่ได้ระบุในสัญญา วันที่ 4 เดินทางจากพิษณุโลกโดยรถยนต์ สลับขับกับทีมงาน (ช่างแต่งหน้า 1 ผู้ช่วย 1 คน) 2,500 กิโลเมตร 

ถ่ายเสร็จเดินทางกลับ 2 วัน เจ้าสาวได้ใช้รูปในการโพสต์ และใช้ในวันงานไปเรียบร้อยแล้ว ฝากทุกท่านพิจารณาถึงเจตนาในการโพสต์ครั้งนี้ด้วย ผลงานที่ทางเจ้าของไม่ได้ลงด้วยนะ พร้อมแนบสัญญาการจ้างงาน ภาพในมุมและสถานที่อื่น ที่เจ้าสาวไม่ได้นำมาลงในโพสต์ดังกล่าว

ภาพจาก ปลั๊กก' ฟองนม

หลังจากโพสต์นี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างแสดงความเห็นออกเป็น 2 เสียง ต่อเทคนิคการถ่ายและการแต่งภาพพรีเวดดิ้งดังกล่าว และบางส่วนก็เข้าใจช่างภาพว่าถ่ายออกมาสวยเหมาะสมกับราคาแล้ว ก่อนจะมีการแชร์ต่อออกไปเป็นจำนวนมาก

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบพบกับ น.ส.อัจฉรีย์ อายุ 32 ปี ผู้ที่โพสต์เรื่องราวดังกล่าว ระบุว่า การเดินทางไปถ่ายพรีเวดดิ้งที่ จ.นครศรีธรรมราช ถ่ายในวันที่ 23 ตุลาคม 2564 เวลาถ่ายประมาณ 09.00 น. เป็นต้นไป ถ่ายทั้งหมด 3 ชุด 2 สถานที่ สถานที่แรก “สวนยุ้ย พันยอด” ชุดราตรีสีแดง (ที่เกิดปัญหา) และชุดที่บ่าวสาวเตรียมไป

สถานที่ 2 คือ “หาดขนอม” เริ่มถ่าย 16.00 น. เป็นต้นไป ชุดราตรีสีแดง มีการขอให้ลงน้ำ กลัวชุดตัดใหม่เสีย เลยเตรียมไปอีก 1 ชุด เท่ากับถ่าย 4 ชุด ชุดที่เป็นชุดหลัก เป็นชุดซิกเนเจอร์ คือ ชุดสีแดงในสวนกล้วย ชุดอื่นๆ ไม่เคยพูดถึงนะ เพราะยังพอรับได้

งานหมั้นมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายน งานเสร็จไม่ทัน เลยต้องเลือก 2 ภาพ ก็แต่งแล้วแต่งอีก รีทีชแล้วรีทัชอีก ส่งงานวันที่ 4 กรอบสวยงามทำไม่ทันแล้ว ภาพหน้างานจึงได้แค่ภาพกรอบลอย รีทัชจนออแกไนส์เหนื่อยเอาไปให้ช่างคนอื่นแก้

ภาพจาก ปลั๊กก' ฟองนม

ตลอดเวลาที่อยู่นครศรีธรรมราช ตนและเจ้าของสวนเป็นคนจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทางเราไม่ได้ติดที่เวดดิ้งนะ เพราะเวดดิ้งแต่หน้าสวยมาก อันนี้ขอยกย่อง แต่ชุดสีแดง เจ้าสาวออกแบบเอง เวดดิ้งส่งตัดเย็บใหม่ทั้งหมด ลดน้ำหนักมาสองเดือน พอถ่ายออกมาพัง

ตลอดเวลา ไม่เคยได้รับคำพูดใดๆ จากช่างภาพเลย มีแต่พูดผ่านคนอื่นมา โทรหายังไม่รับสาย และมาคอมเมนต์ใต้โพสต์ที่มีปัญหาเท่านั้น จนตอนนี้ปัญหาลุกลาม ก็ยังไม่มีการพูดคุยจากช่างภาพแต่อย่างใด นอกจากผ่านคนอื่นมา 

การเดินทาง 2,400 กิโลเมตร ไม่ใช่งานไปฟรี มีค่าจ้างนะ ผู้ช่วยช่างคือทางคุณจัดหาไปเองนะ เพราะบอกว่าน้องมาฝึกงานใหม่ สิ่งที่ไม่ปลื้มในภาพคือ การใช้แสงแข็งเกินไป ภาพดูมืดเกินไป เท้ายาวเกินไป หน้าเจ้าบ่าวมืดเกินไป รายละเอียดอีกนิดหน่อยที่ไม่เก็บให้เช่น ลายสักเจ้าสาว ลายของกล้วยด่าง โดยตนไปชี้เลยนะเอาต้นนี้ พอถ่ายออกมาความสวยของลายกล้วยหายไปหมด ขอบคุณทุกๆ ช่างภาพที่มาช่วยกันรีทัชภาพให้ใหม่ ขอบคุณทุกคนมากจริงๆ

ภาพจาก ผู้สื่อข่าว จ.พิษณุโลก

ขณะที่ น.ส.อัจฉรีย์ เปิดเผยอีกว่า ถ้าหากช่างภาพติดต่อมาเพื่อพูดคุยเจรจาหาทางออกร่วมกันก็ยินดี จะเป็นการถ่ายงานแก้หรือรีทัชภาพใหม่ให้ก็ขอให้มาตกลงกัน มาเจอกันคนละครึ่งทาง กรณีนี้ตนยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับร้านเวดดิ้งสตูดิโอที่ตนว่าจ้าง เพราะทำงานแบบเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว ขอให้แยกประเด็นของร้านกับช่างภาพเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายอีกด้วย

ภาพจาก ปลั๊กก' ฟองนม

ด้าน ช่างภาพคู่กรณี โพสต์ผลงานและข้อความระบุว่า "ผลงานที่ลงในโพสต์นี้ทุกรูป เป็นงานที่ส่งให้ก่อนที่จะมีโพสต์นั้นเกิดขึ้น ผมและผู้ช่วยช่างภาพตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ จึงขอฝากผลงานไว้ให้ช่วยพิจารณามา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ หากมีข้อสงสัยในภาพใด สามารถสอบถามไว้ได้นะครับ ส่วนค่าจ้างตากล้อง ครึ่งหมื่นนะครับ ไม่ใช่ 5 หมื่น โพสต์นี้เป็นเพียงคำชี้แจง ไม่ได้มีเจตนาจะประจานหรือทำผู้ใดเสื่อมเสีย"

ภาพจาก ผู้สื่อข่าว จ.พิษณุโลก และ ปลั๊กก' ฟองนม