พิษแล้ง! ข้าวยืนต้นตายเสียหายชาวนายอมรับชะตากรรม

เกษตรกรชาวนาอุทัยธานี ทุกข์ระทมพิษภัยแล้งทำข้าวนาปีรอบ 2 ที่เสี่ยงทำ ยืนต้นตายแล้งเสียหายอย่างสิ้นเชิงในหลายพื้นที่ ขาดทุนย่อยับเป็นหนี้เป็นหนี้เป็นสินเพิ่ม หลังไม่เชื่อคำเตือนของทางราชการ ต้องยอมรับชะตากรรม

วันที่ 13 มกราคม 2563 ที่จังหวัดอุทัยธานี พิษภัยแล้งได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ของจังหวัดอุทัยธานี โดยเฉพาะเกษตรกรชาวนา ที่ไม่เชื่อคำเตือนของส่วนราชการให้งดการทำนาเพราะเสียงต่อความเสียหายจากภาวะภัยแล้งที่จะตามมา อย่างพื้นที่ บ้านวังจั่น หมู่ที่ 5 และบ้านเกาะกร่าง หมู่ที่ 7 ตำบล ตำบลหนองฉาง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ให้เหตุผลถึงการทำนาปีรอบ 2 ว่า ไม่คิดว่าพิษภัยแล้งจะรุนแรงถึงขั้นนี้ ตอนเริ่มลงมือทำนาปริมาณน้ำที่ใช้ทำนาในคลองวังจั่นยังสามารถสูบมาทำนาได้ ประกอบกับเห็นว่าแหล่งน้ำของตนเองน่าจะเพียงพอในการทำนาในครั้งนี้ แต่เนื่องจากมีเกษตรกรทำนาในพื้นที่แห่งนี้เป็นจำนวนมาก มีพื้นที่ทำนาเกือบ 300 ไร่ ต่างคนต่างสูบน้ำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวกันอย่างต่อเนื่องทั้งในคลองธรรมชาติ และแหล่งน้ำของตนเองจนแห้งขอด ไม่มีน้ำที่จะสูบไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวมานานกว่า 1 เดือน

ล่าสุดพื้นที่นาข้าวดังกล่าวยืนต้นตายเสียหายอย่างสิ้นเชิงไปแล้วกว่า 200 ไร่ โดยไม่มีความหวังที่ข้าวจะฟื้นขึ้นมาได้อีกต้องปล่อยทิ้ง ทำให้การทำนาในครั้งนี้แต่ละรายต้องขาดทุนกันอย่างย่อยยับ ยอมรับชะตากรรมและเป็นหนี้เป็นสินเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยไม่มีข้อเรียกร้องใดๆจากส่วนราชการ เพราะเสี่ยงทำนากันเอง ทั้งที่ได้มีคำเตือนจากทางราชการให้งดการทำนาในรอบนี้เนื่องจากเสี่ยงจะเกิดความเสียหายจากภัยแล้งที่จะตามมา

พิษแล้ง! ข้าวยืนต้นตายเสียหายชาวนายอมรับชะตากรรม