พิษแล้ง!ชาวนาปรังสุดช้ำทำนา 2 รอบไม่ได้ข้าวสักเม็ด

ชาวนาในพื้นที่กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ยังต้องต่อสู้กับภัยแรงที่ส่อเค้ารุนแรงมากขึ้น โดยล่าสุด ฝืนทำนาในพื้นที่ติดแหล่งน้ำธรรมชาติ มีห้วยไหลผ่านยามฝนหลาก แต่สุดท้ายไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ทำนา 2 รอบ เสียหายหมด

วันที่ 7 มกราคม 2563 ที่ จ.ปราจีนบุรี สถานการณ์ภัยแล้งรุนแรงมากขึ้น พบกลุ่มเกษตรกรชาวนาปรัง ที่บ้านเนินสูง ม.8 ต.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งที่อยู่ติดกับลำห้วยสาขาและเป็นที่ราบสูง เกษตรกรส่วนใหญ่ทำนาปี สลับกับนาปรัง และทำการเกษตรอื่นๆหมุนเวียนปะปนกันไป

นายบุญฉันท์ ขันทลักษา อายุ 58 ปี ที่ยึดอาชีพทำนาปรังมากว่า 15 ปี คิดว่าที่นาอยู่ติดกับแหล่งน้ำธรรมชาติ มีห้วยไหลผ่านยามฝนหลาก ลำห้วยจะมีน้ำพอที่จะทำนาปรังได้ ซึ่งการทำนาปรังใช้เวลาสั้นๆ 1-2 เดือนก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้วดีกว่าทำนาปีได้ครั้งเดียว ต่อหนึ่งปี ฤดูการที่แล้วช่วงเดือนเดือน พ.ค.ได้ลงมือทำนาปรังในเนื้อที่ 20 ไร่หลังไถหว่านไม่ถึงเดือนฝนทิ้งช่วงน้ำไม่มีทั้งที่มี สระน้ำในที่นาถึง 5 แห่งน้ำไม่เพียงพอแก่การสูบน้ำเข้านาในที่สุดก็ปล่อยให้ต้นข้าวในทุ่งนายืนต้นตายฤดูกาลที่ 2 หลังเข้าสู่ฤดูฝนหลังออกพรรษาตัดสินใจนำนาปรังอีกรอบเดือนแรกผ่านไปด้วยดี แต่เริ่มเข้าสู่เดือนที่ 2 ขณะข้าวกำลังออกรวงเมื่อเดือนที่ผ่านมาปรากฏว่าน้ำไม่พอหล่อเลี้ยงต้นข้าวในนาที่กำลังออกรวง จึงหันมาสูบน้ำใส่นาข้าวแต่ก็ไม่เพียงพอแก่การหล่อเลี้ยงนาข้าว 20 ไร่ ตอนนี้ก็คงปล่อยให้ต้นข้าวแห้งตายอีกรอบ

ทั้งนี้ในรอบปีทำนาปรัง 2 รอบลงทุนไป 100,000 บาท หายไปในพริบตาไม่ได้ข้าวสักเมล็ดเดียวไม่รู้จะพูดยังไงถึงพูดก็พูดไม่ออกแล้วฤดูกาลปีนี้ 2-3 เดือนข้างหน้าที่จะถึงจะกล้าตัดสินใจทำนาปรังอีกหรือไม่เงินทุนแสนบาทขาดทุนหมดแล้วยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำนาปรังอีกหรือไม่ จับตาดูกันต่อไปว่าปีนี้สถานการณ์ภัยแล้งว่าจะรุนแรงมากแค่ไหน ที่ผ่านมานับว่าแล้งสุดๆ

พิษแล้ง!ชาวนาปรังสุดช้ำทำนา 2 รอบไม่ได้ข้าวสักเม็ด