สำรวจพบพะยูน 2 ตัว ร่างกายสมบูรณ์ ที่ทะเลระยอง

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบุเมื่อวันที่ 16 - 19 ธันวาคม 2567 ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ดำเนินการสำรวจสัตว์ทะเลหายาก เพื่อจัดเก็บข้อมูลการแพร่กระจายและประชากรของสัตว์ทะเลหายาก โดยใช้เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับแบบปีกตรึง (Fixed wing Unmanned Aerial Vehicles) และแบบหลายใบพัด (Multirotor Unmanned Aerial Vehicles)  บริเวณพื้นที่อ่าวเพ และหาดสวนสน ตำบลเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง คิดเป็นพื้นที่สำรวจทั้งสิ้น 30 ตารางกิโลเมตร

ผลจากการสำรวจ พบสัตว์ทะเลหายากจำนวน 2 ชนิด ได้แก่ เต่าทะเล จำนวน 95 ครั้ง และพะยูนจำนวน 9 ครั้ง และเมื่อนำภาพถ่ายจากการสำรวจมาวิเคราะห์สามารถ จำแนกพะยูนได้ทั้งหมด 2 ตัว โดยมีร่องรอยตำหนิที่แตกต่างกันบริเวณลำตัวด้านหลังและบริเวณปลายหาง

จากการประเมินสุขภาพ พบว่าพะยูนทั้ง 2 ตัว มีความสมบูรณ์ของร่างกายอยู่ในระดับสมบูรณ์ (body condition score 3/5) อัตราการหายใจ 2-4 ครั้งใน 5 นาที ร่างกายปกติ ไม่พบบาดแผลขนาดใหญ่ หรือบาดแผลรุนแรง พบเพียงร่องรอยแผลเป็นจากพฤติกรรมฝูง ซึ่งข้อมูลในการสำรวจครั้งนี้จะนำไปคำนวณและวิเคราะห์จำนวนประชากรและแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลหายาก เพื่อเป็นการจัดการวางแผนในการดำเนินการสำรวจครั้งต่อไป

ด้าน ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษจรศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทะเล โพสต์เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุการสำรวจพบดังกล่าว ถือเป็นข่าวดี ที่ระยองก็มีพะยูน แถมมีถึง 2 ตัว ที่เซอร์ไพรส์สุด ๆ คืออยู่แถวบ้านเพนี่เอง

ในโพสต์ อ.ธรณ์ ยังย้อนเล่าถึงงานสำรวจสัตว์ทะเลหายากของกรมทะเล ระบุว่า "หากจำกันได้ เมื่อ 2 ปีก่อนเคยเล่าเรื่อง MMPA สัตว์ทะเลหายากกับการประมง ตอนนั้นมีการประชุมกันแทบทุกวัน จนทำโครงการของบยกระดับอุปกรณ์สำรวจขึ้นมา ผลจากวันนั้นทำให้การสำรวจสัตว์หายากของไทยในวันนี้กลายเป็น 1 ในอาเซียน และส่งผลอย่างยิ่งต่อการดูแลพะยูนในอันดามันในยามฉุกเฉิน และไม่ใช่แค่นั้น ยังสำรวจพะยูนในที่อื่นได้อีก ทำให้วันนี้จึงรู้แล้วว่า มีพะยูนที่บ้านเพ 2 ตัว"

พร้อมฝากชาวระยอง ช่วยกันดูแล ขับเรืออย่างระมัดระวังเวลาเข้าใกล้แหล่งหญ้าทะเล ทำการประมงอย่างรอบคอบ ทั้งนี้กรมทะเลคงรีบอธิบายเรื่องนี้ให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ

โดยท้ายโพสต์ อ.ธรณ์ ระบุ "แม้พะยูนอันดามันยังอยู่ในวิกฤต แต่ยังพอมีหวังในที่อื่น"

ข้อมูลและภาพ : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง , เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat