TNN ต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์คาซัคสถาน-อู่ตะเภา

TNN

ภูมิภาค

ต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์คาซัคสถาน-อู่ตะเภา

ต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์คาซัคสถาน-อู่ตะเภา

ททท.ต้อนเที่ยวบินปฐมฤกษ์จากคาซัคสถาน สู่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา ขยายตลาดคุณภาพสู่แหล่งท่องเที่ยวภาคตะวันออก

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์สายการบินสเก็ตแอร์ไลน์ เที่ยวบิน VSV5357 บินตรงจากกรุงอัลมาตี สาธารณรัฐคาซัคสถาน เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง - พัทยา ในเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา โดยมี นายจีระวัฒน์ ลีนะกนิษฐ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย พล.ร.อ.สิทธิชัย ต่างใจ ผอ.ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง - พัทยา และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น 


ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยว่า ททท.บูรณาการร่วมกับท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาระยอง-พัทยา โดยมีเป้าหมาย เพื่อเพิ่มจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศ ทั้งแบบตารางบินทั่วไป  และเช่าเหมาลำจากอินเดีย เวียดนาม จีน มายังพัทยา รวมถึงการเพิ่มเที่ยวบินในประเทศจากภูมิภาคอื่นๆ โดยนำเสนอสิทธิพิเศษให้กับเที่ยวบินพาณิชย์ที่สนใจจะทำการบิน เช่น ยกเว้นค่าลงจอด และส่วนลดค่าหลุมจอด เป็นต้น นับเป็นความสำเร็จภายใต้ความร่วมมือของทุกภาคส่วน รวมทั้งบริษัททัวร์รายใหญ่ของสาธารณรัฐคาซัคสถาน และสายการบินสเก็ตแอร์ไลน์ ในการเปิดเที่ยวบินตรงแบบเช่าเหมาลำ เส้นทางกรุงอัลมาเตอ สู่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาระยอง-พัทยา ด้วยเครื่องโบอิ้ง 737 แม็กซ์ ความจุผู้โดยสาร 219 ที่นั่ง โดยเที่ยวบินในวันนี้นับเป็นเที่ยวบินปฐมฤกษ์ และในวันเดียวกันนี้ยังมีเที่ยวบินแบบตารางบินทั่วไปจากสายการบินแอร์เอเชีย บินตรงจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ด้วยเครื่องแอร์บัส A320 ความจุผู้โดยสาร 189 ที่นั่ง ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (จันทร์ ศุกร์ อาทิตย์) ซึ่ง ททท.สำนักงานกัวลาลัมเปอร์ ได้นำทีมผู้แทนบริษัทนำเที่ยวและสื่อมวลชนจากประเทศมาเลเซีย ร่วมเดินทางมาในเที่ยวบินเพื่อประชาสัมพันธ์เส้นทางพร้อมทั้งอัพเดตสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของพัทยา นำไปสู่การต่อยอดการขายต่อไป


ทั้งนี้ ททท. เชื่อมั่นว่าการเปิดเส้นทางบินตรงมายังพัทยาของสายการบินสเก็ต แอร์ไลน์ และแอร์เอเชีย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวเอเชียกลางและอาเซียน เป็นการเพิ่มทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวในการเดินทางเข้ามายังประเทศไทยมากยิ่งขึ้น อันจะส่งผลดีต่อการผลักดันเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2567

ข่าวแนะนำ