ลำปางเผชิญพายุรุนแรง หลังอากาศร้อนจัด ฝนถล่มเดือดร้อน 5 ตำบล

ตั้งแต่เย็นวานที่ผ่านมา ( 7 พ.ค. 67 )เกิดพายุฤดูร้อนที่รุนแรงพัดถล่มในพื้นที่ตัวเมืองลำปางนานนับชั่วโมง ทำให้รถทุกชนิดที่สัญจรบนท้องถนนต้องรีบหาที่หลบภัย เพราะเกรงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากพายุฝนที่ขาวโพลนซัดกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมองไม่เห็นทางข้างหน้า 

ในช่วงที่เกิดพายุฤดูร้อยเกิดความโกลาหลขึ้นบนถนนหลายสาย เพราะรถเกิดอุบัติเหตุชนท้ายกันหลายคัน และหลายจุดในตัวเมือง ตลอดจนมีป้ายโฆษณา ทั้งขนาดใหญ่ และขนาดเล็กหักโค่นปลิวว่อนในพื้นที่นอกจากนี้ยังมีเสาไฟฟ้าหักโค่นลงอยู่ในหลายจุด ต้นไม้ใหญ่หักโค่นทับบ้านเรือน 

ทำให้เจ้าหน้าที่งานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครลำปาง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่ ต่างเร่งออกสำรวจ และช่วยเหลือโดยพบต้นไม้ใหญ่สูงกว่า 6 เมตร หลายต้นโค่นปิดทับถนนซุปเปอร์ไฮเวย์สายลำปาง – งาว - พะเยา บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลลำปาง ถนนช่องทางขาออก ผ่านไม่ได้

นอกจากนี้ ที่ลานจอดรถกลางแจ้งของห้างเทสโก้ โลตัส สาขาลำปาง พบว่า โรงจอดรถที่เป็นโครงเหล็ก ก็หักโค่น และพังถล่ม ทับรถยนต์เก๋ง และกระบะ ของประชาชนที่จอดไปใช้บริการถึง 14 คัน

ล่าสุดในวันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครอง อ.เมืองลำปาง และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครลำปาง รวมถึงประชาชนในพื้นที่ ต่างออกสำรวจผลกระทบ และความเสียหายอย่างละเอียด เพื่อจะได้เร่งช่วยเหลือ เร่งฟื้นฟู ตลอดจนประสานงานไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้เข้ามายังพื้นที่ประสบภัย ที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนรุนแรงมาก 

บริเวณถนนสายลำปาง – งาว - พะเยา บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาลำปาง ที่มีต้นไม้ใหญ่สูงกว่า 6 เมตร หลายต้น หักขวางถนนปิดทับช่องถนนขาออก รถทุกชนิดผ่านไปไม่ได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตัดออก และเปิดเส้นทางได้ตามปกติแล้ว ส่วนผลกระทบตามชุมชนต่าง ๆ ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะถนนตรอกวัดน้ำล้อม ต.สวนดอก อ.เมือง มีต้นไม้ใหญ่หักโค่นทับรถเก๋ง และเกี่ยวสายไฟฟ้าขาด จนทำให้เสาไฟฟ้าภายในชุมชนหักทับถนน และบ้านเรือน ลงไปทั้งหมด ส่งผลทำให้ไฟฟ้าดับกลางเมืองซึ่งเจ้าหน้าที่ กฟภ.ลำปาง ก็ทำการตัดกระแสไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยแล้ว

ส่วนบริเวณถนนบุญวาทย์ ใกล้กับศาลหลักเมืองลำปาง ที่มีต้นไม้ใหญ่หักทับถนน และรถยนต์ของประชาชน ที่ขับผ่านพอดีขณะเกิดภัย ขณะนี้ก็ตัดออก เปิดใช้ได้ตามปกติแล้วเช่นกัน 

ข้อมูลจาก: ผู้สื่อข่าวภูมิภาตจังหวัดลำปาง