พาชมวิถีทำเงินของชาวสตูล แห่เก็บ "หอยท้ายเภา" สร้างรายได้งาม กก.ละ 500 บาท

บรรยากาศช่วงเช้าของชายหาดบ้านบุโบ้ย – แหลมสน ตำบลแหลมสน อำเภอละงู จังหวัดสตูล เต็มไปด้วยชาวบ้านโดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชาย แต่งตัวจัดเต็มสวมเสื้อชุดว่ายน้ำ มีหน้ากากดำน้ำ เตรียมพร้อมลงทะเล เพื่อลงไปหาหอยท้ายเภา และหอยชนิดอื่นๆ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่น้ำลดแห้งตามชายฝั่ง หรือช่วงน้ำลง

แต่งตัวว่าจัดเต็มแล้ว อุปกรณ์ในการหาก็สำคัญ แต่ละคนจะเตรียม "ตะขอ" เพื่อขุดหาหอย ถุงตาข่าย และแกลลอนน้ำ หรือแท่งเหล็กเอาไว้ถ่วงน้ำหนักตัวไม่ให้จมเมื่อดำลงในทะเล จากนั้นก็เดินมุ่งหน้าลงทะเลเพื่องมหาหอย 

ชาวบ้านที่มาหาหอยท้ายเภา ต่างก็เล่าตรงกันว่า จะใช้เวลาในการดำหาหอยที่ฝังอยู่ในโคลนสันทราย ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ก็จะได้หอยท้ายเภาตัวใหญ่ๆ ประมาณ 5-6 ตัว ใส่มาในถุงตาข่าย นำขึ้นมาขายให้กับแม่ค้า ที่รอรับซื้ออยู่บนฝั่งริมชายหาด ในราคากิโลกรัมละ 500 บาท เรียกว่า 5-6 ตัวที่หามาได้ สามารถนำมาขายได้เงิน 300-400 บาท แม้ว่าจะได้ราคาดี แต่หอยเภาไม่ได้มีทุกเดือน จะมีมากในช่วง 2-3 เดือนนี้ 

ด้านนางสาววรรณธนา แส้หมูด แม่ค้าที่มารับซื้อหอยท้ายเภาบอกว่า การดำหาหอยท้ายเภาจะยากกว่าเดินหา แต่จะสะดวกกว่าตรงที่นั่งเรือไปจอดจุดใกล้ริมชายฝั่งที่น้ำลึกๆ หน่อย คนที่หาต้องมีความชำนาญ ซึ่งตนจะรับซื้อหอยที่มีขนาดใหญ่ ส่วนตัวเล็กๆ จะปล่อยลงทะเล 

ส่วนหอยท้ายเภาที่รับซื้อได้ในแต่ละวันจะมีน้ำหนัก 80 ถึง 100 กิโลกรัม นำไปส่งขายร้านอาหารทะเล ในต่างหวัดทางภาคกลาง และส่งออกต่างประเทศ คือ "ฮ่องกง" มีรายได้ถึง 5 หมื่นบาทต่อวัน 

สำหรับ "หอยท้ายเภา" สามารถนำไปทำได้หลายเมนู ทั้งแกงเผ็ด ลวกจิ้ม ผัดกระเพรา ส่วนที่มีราคาสูงนั้นเพราะว่า รสชาติอร่อย หายาก ทำให้ราคาสูงตามไปด้วย 

ที่มาข้อมูล : TNN ONLINE

ที่มาภาพ : TNN