เป็นโสดนานๆ ร่างกายพังไม่รู้ตัว

เราท่องกันมาตั้งแต่เด็กๆ ว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคม หมายความว่า มนุษย์ต้องไปรับการเชื่อมต่อ สื่อสาร และมีประสบการณ์บางอย่างร่วมกัน สร้างความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับสังคม ทำให้เราสามารถให้ชีวิตอยู่ต่อไปได้ และนั่นอาจร่วมถึงการอยู่เป็นคู่

แม้ธรรมชาติสร้างเรามาเช่นนั้น แต่คนในยุคนี้กลับเหน็ดเหนื่อยที่จะสร้างความสัมพันธ์ พวกเขาเลือกที่จะอยู่คนเดียว ใช้ชีวิตโสด เหงาและการแยกตัวจากสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งกลับกลายเป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยอย่างน่าตกใจ

งานวิจัยที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัยในอังกฤษกับจีน ระบุว่า การที่เราแยกตัวจากสังคม อยู่ตัวคนเดียว และเป็นโสดมากขึ้น เชื่อมโยงกับกระบวนการทางชีววิทยาในร่างกายย่ำแย่ลง และส่งผลร้ายต่อสุขภาพ

การศึกษาชี้ว่า การโดดเดี่ยว ทำให้เกิดความเหงา นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของระดับโปรตีนเฉพาะ 5 ชนิดที่แสดงออกในสมอง ได้แก่ GFRA1, ADM, FABP4, TNFRSF10A และ ASGR1

และระดับโปรตีนในเลือดที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าครึ่งมีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวานชนิดที่ 2 โรคหลอดเลือดสมอง และการเสียชีวิต

ขณะที่การมีความสัมพันธ์ทางสังคมที่ดีและไม่รู้สึกเหงา อาจส่งเสริมสุขภาพโดยการลดระดับโปรตีนที่เป็นอันตรายบางชนิด 

นี่อาจเป็นการแสดงให้เห็นครั้งแรกว่าความเหงาส่งผลต่อการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตผ่านความสัมพันธ์กับโปรตีนสำคัญทั้ง 5 ชนิดนี้

ผลกระทบของภาวะความเหงาต่อสังคม

การแยกตัวจากสังคม เลือกใช้ชีวิตคนเดียวหรือเป็นโสด และความเหงา ส่งผลกระทบต่อคนทุกวัยและทุกเพศ และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพกายและใจที่สำคัญ 

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่าความรู้สึกเหล่านี้แพร่หลายมาก โดยประมาณ 25% ของผู้สูงอายุตัดสินใจแยกตัวจากสังคม และราว 5-15% ของวัยรุ่นบอกว่าพวกเขารู้สึกเหงา

ดังนั้น การปฏิสัมพันธ์ทางสังคมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความเป็นอยู่ที่ดี ช่วยเสริมสร้างทั้งสุขภาพกายและใจ 

...การเชื่อมต่อทางสังคมช่วยลดความเครียด ลดความดันโลหิต และสนับสนุนการทำงานของภูมิคุ้มกัน 

นอกจากนี้ยังเสริมสร้างสุขภาพด้านการรู้คิดและปรับปรุงสุขภาพสมอง ยิ่งไปกว่านั้น ยังช่วยส่งเสริมความเห็นอกเห็นใจและความเข้าใจ เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้จิตใจและสร้างความยืดหยุ่นทางอารมณ์

บทความจาก : 'Loneliness' Proteins in Your Blood Could Be Putting Your Health at Risk

ภาพปก : Envato