TNN กรมสุขภาพจิตเปิดแนวทางดูแลจิตใจหลังเกิดเหตุ “รถบัสไฟไหม้” อะไรไม่ควรทำ

TNN

Health

กรมสุขภาพจิตเปิดแนวทางดูแลจิตใจหลังเกิดเหตุ “รถบัสไฟไหม้” อะไรไม่ควรทำ

กรมสุขภาพจิตเปิดแนวทางดูแลจิตใจหลังเกิดเหตุ “รถบัสไฟไหม้” อะไรไม่ควรทำ

กรมสุขภาพจิตเปิด แนวทางดูแลจิตใจ พร้อมแนะแนวทางปฏิบัติสิ่งที่ควรทำ และ ไม่ควรทำหลังเกิดไฟไหม้รถบัส

จากกรณีเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัส ณ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่ได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก ซึ่งทุกภาคส่วนภายในกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความสำคัญ และมีการหารือเพื่อดำเนินการปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลืออย่างครอบคลุม ในส่วนของการดูแลทางด้านสุขภาพจิตทางกรมสุขภาพจิตได้มีการจัดทำแผน โดยจัดทีมเยียวยาจิตใจผู้ประสบเหตุ ทั้งกลุ่มที่บาดเจ็บ ผู้เห็นเหตุการณ์และอยู่ในเหตุการณ์ ตลอดจนกลุ่มผู้สูญเสีย 


นายแพทย์กิตติศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า กรมสุขภาพจิตขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งในกรณีเหตุการณ์ในครั้งนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบทุกคน ซึ่งขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการดูแลจิตใจสำหรับเด็กและวัยรุ่นที่มี
ความเสี่ยงจากภาวะเครียดหลังเหตุการณ์รุนแรง สิ่งที่ควรทำมีดังนี้ 

 

- คำนึงถึงความปลอดภัยทั้งร่างกายและจิตใจของเด็กเป็นอันดับหนึ่ง 

- รีบส่งเด็กกลับสู่ครอบครัวและการใช้ชีวิตตามปกติ 

- ผู้ใหญ่จัดการอารมณ์ตนเองเป็นต้นแบบ 

- มีผู้ใหญ่/ผู้ปกครอง ดูแลใกล้ชิด เป็นที่พึ่งทางจิตใจโดยเฉพาะในครอบครัวที่มีการสูญเสีย 

- พาทำกิจกรรมผ่อนคลาย เพื่อหันเหความสนใจจากเหตุการณ์ 


สำหรับสิ่งที่ไม่ควรทำหลังเกิดเหตุการณ์รุนแรง 


 - ไม่ถามเด็กให้เล่าถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ 

- งดนำเด็กมาออกข่าว/เสพข่าว 

- ไม่นำเด็กมาเป็นเครื่องมือการสร้างภาพกระแสดรามา 


ทั้งนี้ ทีมเยียวยาจิตใจ MCATT จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุทัยธานี ร่วมกับศูนย์สุขภาพจิตที่ 3 รพ.จิตเวชนครสวรรค์ราชนครินทร์ รพ.ลานสัก สสอ.ลานสัก และรพ.เครือข่ายใน จ.อุทัยธานี ร่วมประเมินและช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ปกครอง และผู้ได้รับผลกระทบ


จากเหตุการณ์เพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้ทำการประเมินคัดกรองสุขภาพจิต 24 ราย พบมีภาวะเครียดระดับน้อย 5 ราย, ปานกลาง 8 ราย, มาก 11 ราย และพบภาวะเศร้า ระดับน้อย 3 ราย, ปานกลาง 3 ราย, มาก 5 ราย โดยให้คำปรึกษารายบุคคล 8 ราย ส่งต่อ 1 ราย และเฝ้าระวัง 3 ราย คือ ตั้งครรภ์ 1 ราย ความดันโลหิตสูง 2 ราย อีกด้วย


กรมสุขภาพจิต ขอแนะแนวทางในการดูแลญาติและครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ดังนี้ 



-  แจ้งการสูญเสียด้วยความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจ 

- แสดงความเสียใจเป็นข้อความหรือการ์ด

- ให้ข้อมูลความรู้สุขภาพจิตเบื้องต้น

- ให้คำแนะนำการปรับตัว การดูแลสุขภาพ ติดต่อสังคมเพื่อนฝูง การไว้อาลัยที่สามารถทำได้ 

- ประเมินสุขภาพจิต  ถ้าพบความเสี่ยงควรส่งต่อทันที 

- สนับสนุนให้ตั้งกลุ่มเพื่อน เพื่อช่วยเหลือกันเอง


ข้อมูลจาก: กรมสุขภาพจิต 

ภาพจาก: Getty Images 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง