แนวโน้มโรคอุบัติใหม่ และภัยสุขภาพจากน้ำท่วม
กรมควบคุมโรค เผยแนวโน้มโรคอุบัติใหม่ และภัยสุขภาพจากน้ำท่วมในประเทศไทย
แพทย์หญิงจุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ผู้ช่วยอธิบดีกรมควบคุมโรค และนายแพทย์วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โฆษกกรมควบคุมโรค ร่วมดำเนินการแถลงข่าว (11 กันยายน 2567) ในหัวข้อ “รู้ทันสถานการณ์ จับตาโรคอุบัติใหม่ และภัยสุขภาพจากน้ำท่วม” พร้อมแนะนำวิธีรับมือโรคและภัยสุขภาพในช่วงนี้
โควิด 19 แนวโน้มผู้ป่วยลดลง สายพันธุ์ที่พบระบาดมากหลักในปัจจุบัน คือ JN.1 ข้อมูลวันที่ 7 มกราคม - 7 กันยายน 2567 มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 38,236 ราย เสียชีวิต 201 ราย โดยระหว่างวันที่ 1-7 กันยายน 2567 พบผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 314 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้เสียชีวิตเป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัว
ไข้หวัดใหญ่ แนวโน้มผู้ป่วยลดลง สายพันธุ์ที่พบมากที่สุดคือสายพันธุ์ A/H1N1(2009) ข้อมูลวันที่ 1 มกราคม - 31 สิงหาคม 2567 พบผู้ป่วยสะสม 468,631 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กเล็กและวัยเรียน พบผู้เสียชีวิต 36 ราย เป็นกลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป โดยผลการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในประชาชนกลุ่มเสี่ยง ปี 2567 จำนวนกลุ่มเป้าหมาย 4,170,210 คน มีผู้เข้ารับบริการ 3,802,584 คน คิดเป็นร้อยละ 91 ขอเน้นย้ำให้ประชาชน ผู้ปกครอง และผู้สูงอายุ ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ยังคงเฝ้าระวัง และตระหนักในการใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ และดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด เมื่อมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก ต้องสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้อื่น โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว และไปรับการรักษาจากแพทย์ หยุดพักรักษาตัวจนกว่าจะหายเป็นปกติ
ไข้เลือดออก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 4 กันยายน 2567 พบผู้ป่วย 72,157 ราย พบมากสุดในกลุ่มวัยเรียน มีผู้เสียชีวิต 71 ราย เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัว จึงขอเน้นย้ำมาตรการ สำรวจทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ควบคุมยุงพาหะ วินิจฉัยและการรักษาที่รวดเร็ว และสื่อสาร เน้นงดจ่ายยากลุ่ม NSAIDs ให้แก่ผู้ป่วยที่สงสัยเป็นโรคไข้เลือดออก (อาจก่อให้เกิดอันตรายเลือดออกในทางเดินอาหาร) และขอแนะนำให้ประชาชนทายากันยุงเพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงกัด รวมถึงผู้ป่วยไข้เลือดออกให้ทายากันยุงด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไข้เลือดออกสู่บุคคลในครอบครัวและชุมชน
ฝีดาษลิง สถานการณ์ทั่วโลก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 - 31 กรกฎาคม 2567 ผู้ป่วยสะสม 102,997 ราย เสียชีวิต 223 ราย เป็นกลุ่มอายุ 30-39 ปี (41%) ส่วนใหญ่เป็นเชื้อฝีดาษวานร Clade II ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2565 – 6 กันยายน 2567 พบผู้ป่วยสะสม 835 ราย เป็นกลุ่มอายุ 30-39 ปี (42%) และเสียชีวิต 13 ราย (1.6%) พบติดเชื้อเอชไอวีทั้ง 13 ราย ส่วนการติดตามการรักษาผู้ป่วยฝีดาษวานร Clade Ib ที่พบเป็นผู้ป่วยนำเข้ารายแรกของประเทศไทย ขณะนี้รักษาหายสามารถกลับบ้านได้แล้ว และจากการติดตามอาการกลุ่มเสี่ยงใกล้ชิดผู้ป่วยรายนี้จำนวน 43 ราย ขณะนี้ครบ 21 วัน ไม่พบผู้ป่วยเพิ่มเติม
ไข้ฉี่หนู เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน สัตว์รังโรคที่สำคัญ ได้แก่ หนู หมู วัว ควาย แพะ แกะ สุนัข ติดต่อได้โดยการสัมผัสกับปัสสาวะของสัตว์ที่ติดเชื้อ สัมผัสกับน้ำหรือดินที่ปนเปื้อนเชื้อ และการกินอาหารที่ปนเปื้อนปัสสาวะสัตว์ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 3 กันยายน 2567 พบผู้ป่วย 2,452 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ 55-64 ปี (20.5%)
โรคเมลิออยด์ (ไข้ดิน) พบเชื้อได้ในแหล่งน้ำและดินตามธรรมชาติ สถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 3 กันยายน 2567 พบผู้ป่วย 2,399 ราย เสียชีวิต 68 ราย ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มักมีโรคประจำตัว ซึ่งจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มสูงขึ้นในปีนี้
โรคอุจจาระร่วงและอาหารเป็นพิษในสถานศึกษา พบเหตุการณ์ระบาด 43 เหตุการณ์ จำนวนผู้ป่วย 3,244 ราย
ภัยสุขภาพจากน้ำท่วม และดินถล่ม ข้อมูลระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม - 8 กันยายน 2567 พบผู้เสียชีวิตรวม 29 ราย จากการจมน้ำ 15 ราย และดินถล่ม 13 ราย ไฟฟ้าช็อต 1 ราย ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อายุ 45-59 ปี (เฉลี่ย45.9 ปี)
สำหรับวิธีการป้องกันการจมน้ำ ควรอพยพไปยังพื้นที่สูง ไม่ควรขับรถผ่านบริเวณที่มีน้ำท่วม ระดับน้ำเพียง 6 นิ้ว สามารถทำให้รถเสียหลักล้มได้ สำหรับดินถล่มแนะ
1.อพยพทันทีไปตามเส้นทางที่ปลอดภัยให้พ้นจากการไหลของดิน อย่างน้อย 2-5 กิโลเมตร
2.หลีกเลี่ยงเส้นทางน้ำเชี่ยว
3.ควรอยู่ห่างลำน้ำ ป้องกันดิน หิน ต้นไม้ ที่อาจไหลตามน้ำมา
4.เมื่อพลัดตกน้ำ ให้หาจุดยึดเกาะและปีนให้พ้นน้ำ ทั้งนี้ในช่วงฤดูฝนนี้ ควรติดตามข้อมูลข่าวสารสภาพอากาศตลอดเวลา
ที่มา : กรมควบคุมโรค
ภาพ : Envato
ข่าวแนะนำ