แพทย์เตือนฝุ่น PM 2.5 ส่งผลกระทบสมอง กระตุ้นการปวดไมเกรน
แพทย์เผยผลการศึกษา ฝุ่น PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อสมอง กระตุ้นให้ปวดไมเกรนได้ สูดดมต่อเนื่องอาจเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์
นายแพทย์ วิทวัส ศิริประชัย อดีตแพทย์ประจำโรงพยาบาลเกาะลันตา อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เผยงานวิจัยจากหลายประเทศ และในไทยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของ PM 2.5 และอาการปวดศีรษะ ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยในไต้หวัน มีการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนที่หาหมอด้วยอาการปวดศีรษะไมเกรน หลัง PM 2.5 ในพื้นที่เพิ่มขึ้น ผลการศึกษาพบว่า เมื่อสูดอากาศที่มี PM 2.5 เข้าไป ฝุ่นจะไปเกาะกับเส้นประสาทในโพรงจมูก ซึ่งบริเวณนี้จะเชื่อมต่อกับสมองโดยตรง
จากนั้นฝุ่นจะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในระบบประสาท ปล่อยสารที่เกี่ยวกับการอักเสบออกมา และกระตุ้นให้ปวดไมเกรนได้ นอกจากจะทำให้ปวดศีรษะแล้ว ยังมีผลให้เซลล์สมองได้รับบาดเจ็บ และอาจมีผลในระยะยาว ทำให้สมองเสื่อม หรือเป็นอัลไซเมอร์ได้ด้วย
ด้านคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่า ฝุ่น PM2.5 มีผลทั้งระยะสั้นและระยะยาวต่อร่างกาย ในระยะสั้นจะทำให้เกิดการ มึนงง เวียนศีรษะ ปวดหัวมากขึ้น และมีผลในระยะยาวซึ่งทำให้สมองเสื่อมมากขึ้น เกิดอัมพฤกษ์อัมพาตมากขึ้น เพราะฝุ่น PM2.5 มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมหลายสิบเท่า เมื่อเราสูดฝุ่น PM 2.5 เข้าไปจะตรงไปที่สมอง และกระตุ้นทำให้เกิดโรคสมองเสื่อม โรคหลอดเลือดสมองตีบ
สำหรับเด็กฝุ่น PM 2.5 นี้ก็ถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะว่าเด็กเป็นวัยที่สมองกำลังมีการเจริญเติบโตและอยู่ในวัยเรียน PM 2.5 จะไปรบกวนกระบวนการเรียนรู้ของเด็ก ทำให้เด็กมีสมาธิสั้น ความจำสั้นลง และการพัฒนาทางด้านเรื่องสมองกับการเรียนรู้ใหม่ๆแย่ลง
พร้อมแนะนำ 3 วิธีป้องกัน PM 2.5 ต่อโรคสมอง คือ 1. เช็ค Application หรือเครื่องมือในการเช็คค่า PM 2.5 ว่าเพิ่มขึ้นหรือน้อยลง 2. เมื่ออยู่บ้านปิดประตูหน้าต่างให้สนิท เปิดเครื่องฟอกอากาศ ดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ และ 3. เมื่อต้องออกไปข้างนอก ควรใส่หน้ากาก N95 หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ภาพจาก: AFP
ข่าวแนะนำ