"โรคกลากเกลื้อน" คืออะไร เกิดจากความสกปรก จริงหรือไม่ หาคำตอบได้ที่นี่!

กลากเกลื้อน เป็นโรคที่หลายๆ คน มักมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับมัน โดยคนส่วมมาก มักคิดว่าโรคกลากเกลื้อนนั้น มีสาเหตุมาจากความสกปรก ซึ่งนั่นไม่จริงซะทีเดียว มันยังเกิดจากปัจจัยอื่นๆ ได้อีกด้วย วันนี้เราเลยจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับโรคผิวหนังชนิดนี้ให้มากยิ่งขึ้นกัน

โรคกลากเกลื้อน คืออะไร?

โรคกลากเกลื้อน เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา 2 ชนิด ดังนี้

• กลาก เกิดจากเชื้อราเดอร์มาโตไฟต์ (Dermatophytes)

• เกลื้อน เกิดจากเชื้อราชนิดมาลาสซีเซีย (Malassezia)

อาการและลักษณะของโรคกลาก

1. เป็นวงกลมหรือวงรี ขอบนูนแดง ตรงกลางอาจจางหายไป

2. ผิวหนังแห้งเป็นขุย คัน

3. มักพบตามลำตัว แขน ขา 

4. อาจขึ้นที่หนังศรีษะได้ด้วย

5. อาการอาจกำเริบเมื่ออากาศร้อน หรือเหงื่อออกมาก

สาเหตุของโรคกลาก

1. การสัมผัส กับผู้ป่วย สัตว์เลี้ยง หรือสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อรา

2. อากาศร้อน ชื้น เหงื่อออกมาก

3. ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

4. โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน

อาการและลักษณะของโรคเกลื้อน

1. เป็นดวงกลม ขนาด 4-5 มิลลิเมตร

2. มักจะไม่มีอาการคัน

3. พบได้มากตามลำตัว หน้าอก แผ่นหลัง ต้นคอ กระจายเป็นหลายดวง

4. มีสะเก็ดเงามัน ผิวหนังไม่แดง

5. อาการอาจแย่ลงเมื่ออากาศร้อนหรือชื้น

สาเหตุของโรคกลาก

สำหรับสาเหตุของโรคเกลื้อน เกิดจากเชื้อราในรูปยีสต์ที่มีอยู่แล้วบนผิวหนัง เจริญเติบโตด้วยไขมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ในภาวะปกติเชื้อราจะไม่ทำงาน แต่หากได้รับการกระตุ้นจากปัจจัยอื่นๆ เช่น เหงื่อออก เสื้อผ้าอับชื้น มีการใช้ยาบางชนิด จะทำให้เชื้อราเติบโตจนเกิดเป็นเกลื้อนได้

โรคกลากเกลื้อนไม่ได้เกิดจากความสกปรกเพียงอย่างเดียว โดยนอกเหนือจากสาเหตุข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เสี่ยงต่อโรคกลากเกลื้อน ดังนี้

1. ใส่เสื้อผ้าที่อับชื้น

2. ใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกัน

3. เล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมที่ต้องสัมผัสกับผู้อื่น

4. อาศัยอยู่ในสถานที่แออัด

การรักษาโรคกลากเกลื้อน

สำหรับการรักษาโรคกลากเกลื้อน สามารถใช้ยาทาต้านเชื้อรา ยากินต้านเชื้อรา รวมถึงยาสระผมต้านเชื้อรา ในกรณีที่เป็นเกลื้อนบนหนังศีรษะ

วิธีป้องกันโรคกลากเกลื้อน

1. รักษาความสะอาดร่างกาย อาบน้ำให้สะอาด เช็ดตัวให้แห้ง

2. ใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี

3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย สัตว์เลี้ยง หรือสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อรา

4. ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น

5. สร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

โรคกลากและโรคเกลื้อน มีสเหตุส่วนหนึ่งมาจากการหมักหมมของร่างกายก็จริง แต่ก็ยังมีสาเหตุและปัจจัยอื่นที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงได้เช่นกัน ดังนั้นนอกจากการดูแลทำความสะอาดร่างกายอยู่เป็นประจำ ก็คสรดูแลสุภาพร่างกายด้านอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อให้ห่างไกล จากโรคกลากเกลื้อนนั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, สสส.

ที่มาภาพปก : freepik