7 สัญญาณเตือน "โรคเบาหวาน" สังเกตตัวเองด่วน คุณมีอาการเหล่านี้หรือไม่?

เบาหวาน (Diabetes) โรคเรื้อรังชนิดไม่ติดต่อที่คนทั่วโลกป่วยเป็นอันดับต้น ๆ โดยโรคนี้เป็นภาวะที่น้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยอยู่ในระดับสูง เนื่องจากเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ความอันตรายของโรคเบาหวาน นอกจากจะทำให้ผู้ป่วยมีความผิดปกติเกี่ยวกับร่างกาย เช่น หน้ามืด อ่อนเพลีย แผลหายช้ากว่าปกติและอื่นๆ แล้ว ยังสามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนและนำไปสู่โรคอื่นๆ เช่น โรคไต ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจ เป็นต้น ที่แย่ไปกว่านั้นคือโรคนี้เป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ จึงต้องกินยา และรักษาอาการไปตลอดชีวิต 

สัญญาณเตือน "โรคเบาหวานเบื้องต้น"

เนื่องจากการเป็นโรคเบาหวาน ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ และนำไปสู่ผลเสียตามมามากมาย ดังนั้นการรู้ทันถึงสัญญาณเตือนของโรคก่อนจะนำไปสู่อาการที่รุนแรงจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากรู้เร็ว เราก็สามารถป้องกันได้ไวขึ้น โดย 7 สัญญาณเตือน ที่บ่งบอกว่าคุณอาจเป็น "โรคเบาหวาน" มีดังนี้

1. ปัสสาวะบ่อย 

หากคุณมีอาการปัสสาวะบ่อย ถึงบ่อยมากโดยเฉพาะในเวลากลางคืน นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคเบาหวาน เพราะการกรองน้ำตาลในเลือดออกทางปัสสาวะ ไตจำเป็นต้องดึงน้ำออกมาด้วย ดังนั้นหากผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลสูงที่มากเท่าใด ก็ยิ่งทำให้ปัสสาวะบ่อยและมากขึ้นเท่านั้น 

2. กระหายน้ำ คอแห้งบ่อย

ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นผลมาจากการที่ร่างกายเสียน้ำไปจากการปัสสาวะบ่อยและมากนั่นเอง

3. หิวบ่อย กินเท่าไหร่ไม่รู้จักอิ่ม

อาการหิวบ่อย หรือกินจุกจิก เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของเบาหวาน เนื่องจากร่างกายขาดพลังงาน จึงทำให้อยากอาหารอยู่ตลอดเวลา

4. น้ำหนักลด โดยไม่ทราบสาเหตุ

การน้ำหนักลด โดยไม่ทราบสาเหตุ อาจมีผลมาจากในภาวะที่ขาดอินซูลิน ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้เป็นพลังงานได้ ร่างกายจึงนำโปรตีนและไขมันที่เก็บสะสมไว้มาใช้ จึงทำให้น้ำหนักตัวลดลงนั่นเอง

5. คันตามผิวหนัง

เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำออกทางปัสสาวะมาก ทำให้ผิวแห้ง แตก และคัน

6. ตามัว ชาปลายมือ ปลายเท้า

7. เป็นแผลง่าย และแผลหายยากผิดปกติ

ซึ่งหากคุณมีอาการเหล่านี้ หรือกำลังกังวลเกี่ยวกับโรคเบาหวาน ควรรีบเข้ารับการวินัจฉัยจากแพทย์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และรับการรักษาต่อไป

ที่มาข้อมูล : โรงพยาบาลศิครินทร์ ,โรงพยาบาลวิภาวดี

ที่มาภาพ : freepik