จริงหรือ? นั่งทำงานนานๆ นอนดึก ผมร่วงเป็นกระจุกได้ กรมการแพทย์ ชี้แจงแล้ว

ไขข้อสงสัย? นั่งทำงานนานๆ นอนดึก ขาจะบวมและหนักฝ่าเท้า ผมร่วงเป็นกระจุกได้ กรมการแพทย์ ชี้แจงแล้ว

จากที่มีผู้ให้คำเตือนว่า นั่งทำงานนาน ๆ นอนดึก ขาจะบวม และหนักฝ่าเท้า ผมร่วงเป็นกระจุกได้ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยทางสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า การนั่งทำงานนาน ๆ หรือนอนดึก ไม่ได้ทำให้ผมร่วงเป็นกระจุก ซึ่งการเกิดผมร่วงขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค เช่น โรคผมร่วงเป็นหย่อม (alopecia areata) เป็นโรคผมร่วงที่พบบ่อย โดยพบได้ในทุกช่วงอายุ ผู้ป่วยมักมีอาการผมร่วงเฉพาะที่ บริเวณผมที่ร่วงมีลักษณะ กลมหรือรี อาการผมร่วงในโรคผมร่วงเป็นหย่อมนี้ เชื่อว่าเกิดจากการที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อรากผมตนเอง (autoimmunity) ซึ่งสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดได้อย่างไร

โรคนี้อาจพบร่วมกับโรคอื่นได้ที่พบบ่อย ได้แก่ โรคภูมิแพ้ เช่น โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ทางจมูกหรือ โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง (atopic dermatitis) โรคไทรอยด์ และโรคด่างขาว (vitiligo) ซึ่งโรคนี้ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ได้ โดยผู้ป่วยอาจมีประวัติญาติที่มีสายเลือดใกล้ชิดมีอาการเหมือนกัน ผู้ป่วยอาจมีอาการขนร่วงที่บริเวณอื่นร่วมด้วย เช่น หนวด เครา ขนคิ้ว และขนตามร่างกาย ผู้ป่วยอาจมีอาการมาก คือ มีผมร่วงหมดทั้งศีรษะ (alopecia totalis) มีขนบริเวณอื่นของร่างกายร่วงจนหมดร่วมด้วย (alopecia universalis)

ส่วนภาวะที่เกิดผมร่วงทั่ว ๆ แต่ปริมาณมากจนเห็นเป็นกำ ๆ เรียกว่า ภาวะผมผลัด (Telogen effluvium) คือ มีอาการผมร่วงมากผิดปกติ (มากกว่า 100 เส้น/วันแต่ไม่มากเกิน 50% ของผมทั้งศีรษะ) อาจเกิดตามหลังการเจ็บป่วยไม่สบายที่เป็นมาก, ความเครียดมาก หรือหลังจากการรับประทานยาบางอย่างจึงทำให้เกิดผมผลัดได้

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.iod.go.th หรือ โทร. 02-354-5222

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การนั่งทำงานนาน ๆ หรือนอนดึก ไม่ได้ทำให้ผมร่วงเป็นกระจุก ซึ่งการเกิดผมร่วงขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค เช่น โรคผมร่วงเป็นหย่อม (alopecia areata) เป็นโรคผมร่วงที่พบบ่อย โดยพบได้ในทุกช่วงอายุ

ที่มา ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม

ภาพจาก AFP/TNN Online