โรค "ลมพิษเรื้อรัง" คืออะไร อันตรายหรือไม่ มีสาเหตุมาจากอะไร เช็คที่นี่!
ทำความรู้จัก โรค "ลมพิษเรื้อรัง" คืออะไร อันตรายหรือไม่ มีสาเหตุมาจากอะไร เช็คที่นี่?
เชื่อว่าหลายๆคน คงรู้จักและคุ้นเคยกับโรคลมพิษกันดีอยู่แล้ว ซึ่งแม้ว่าโรคนี้จะไม่ได้เป็นอันตรายและสามารถหายเองได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาการคันและผื่นที่ขึ้นตามผิวหนังอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้ที่เป็น โดยเฉพาะโรคลมพิษเรื้อรังที่มักเป็นๆหายๆ อาจสร้างความรำคาญและความไม่สบายกายให้กับผู้ป่วยได้ในระยะยาว
ลมพิษเรื้อรัง คืออะไร?
ลมพิษ (urticaria) คือผื่นคันที่มักเกิดจากการแพ้สิ่งต่างๆ ทั้งอาหาร ยา อากาศ หรือการแพ้จากการโดนสัตว์กัดต่อย ซึ่งผื่นเหล่านี้จะขึ้นบริเวณผิวหนัง มีลักษณะนูนสีแดงคล้ายกับตุ่มยุงกัด โดยประเภทของลมพิษแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ 1. ลมพิษชนิดเฉียบพลัน (acute urticaria) และ 2. ลมพิษชนิดเรื้อรัง (chronic urticaria)
สำหรับลมพิษชนิดเรื้อรัง สามารถพบได้ในทุกกลุ่มอายุ มักพบในผู้ที่มีอายุประมาณ 20 – 40 ปี อาจเป็นไปได้ว่ากลุ่มวัยเรียนและวัยทำงานมักมีความเครียดสะสม จึงทำให้อาจละเลยต่อการดูแลสุขภาพของตนเอง ส่วนอีกหนึ่งสาเหตุมักมาจากการถูกกระตุ้นจากปัจจัยภายนอก เช่น การแพ้อาหารอาหารทะเล สารกันบูด ของหมักดอง การติดเชื้อเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย การแพ้ยาบางชนิด เป็นต้น
อาการของลมพิษเรื้อรัง
สำหรับอาการของลมพิษเรื้อรัง มักมีผื่นขึ้นซึ่งจะมีความคลึงกับผื่นลมพิษปกติ สามารถพบผื่นที่มีขนาดเล็กจนถึงที่มีลักษณะใหญ่เป็นปื้นนูนแดง ให้ความรู้สักคัน กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งแขน ขา บางรายอาจมีขึ้นบริเวณใบหน้า รอบดวงตา และปากด้วย โดยระยะเวลาของการเป็นลมพิษเรื้อรัง จะเป็น ๆ หาย ๆ อย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์ ต่อเนื่องกันนานเกิน 6 สัปดาห์ขึ้นไป
การดูแลตนเองของผู้ป่วยลมพิษเรื้อรัง
สำหรับการดูแลตนเองของผู้ป่วยลมพิษเรื้อรัง เพื่อบรรเทาอาการ สามารถทำได้ดังนี้
1. หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดลมพิษอย่างเคร่งครัด
2. พกยาต้านฮีสตามีนหรือยาแก้แพ้ติดตัวไว้เสมอ
3. พยายามไม่เครียด และทำจิตใจให้แจ่มใส
4. หากเกิดอาการคัน ไม่ควรแกะเกาผิวหนัง ซึ่งอาจทำให้ผิวหนังอักเสบกว่าเดิม
5. รับประทานยาตามแพทย์สั่ง
6. ใช้ยาทา เช่น คาลาไมน์ เพื่อช่วยลดอาการคัน
ที่มาข้อมูล : คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล, โรงพยาบาลบางกอก
ที่มาภาพ : freepik