เปิด 5 พฤติกรรมเสี่ยง "โรคความดันโลหิตสูง" รู้เร็ว ป้องกันได้!
เปิด 5 พฤติกรรมเสี่ยง "โรคความดันโลหิตสูง" รู้เร็ว ป้องกันได้ มีอะไรบ้าง?
ความดันโลหิตสูง ถือเป็นอีกหนึ่งโรคที่สามารถพบได้ในคนไทยส่วนใหญ่ ในผู้ป่วยบางรายมีการแสดงอาการที่บ่งชี้การเป็นโรคความดันอย่างเด่นชัดไม่ว่าจะเป็น การปวดศรีษะ หน้ามืด เหนื่อยง่าย ใจสั่น มือเท้าชา เป็นต้น ขณะที่หลายรายก็ไม่มีการแสดงอาการที่ชัดเจน ซึ่งหากปล่อยไว้นานๆ โดยไม่ได้รับการแก้ไขอาจนำไปสู่การเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพเรื้อรังอื่นๆ ตามมา เช่น โรคไต โรคเบาหวาน เป็นต้น ดังนั้นสิ่งสำคัญคือเราควรป้องกันและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดของโรคนี้ขึ้น
5 พฤติกรรมเสี่ยง "โรคความดันโลหิตสูง"
สาเหตุการเกิดโรคความดันโลหิต มาได้จากหลายปัจจัย ซึ่งบางอย่างเราสามารถป้องกันได้ โดยเริ่มจากการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดโรคได้ ดังนี้
1. มีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป
พฤติกรรมแรกที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง ก็คือเรื่องของการมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป โดยสถิติพบว่าคนที่มีรูปร่างอ้วน ส่งผลให้ความดันสูงกว่าคนทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากอาจเกิดภาวะไขมันในเลือดสูงขัดขวางการไหลเวียนโลหิต ทำให้ต้องใช้แรงดันในการหมุนเวียนเลือดมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
2. บริโภคอาหารเค็มเป็นประจำ
ในอาหารรสเค็ม มักเต็มไปด้วยเกลือหรือโซดียมปริมาณมาก เมื่อรับประทานเข้าไปจะส่งผลให้ร่างกายเกิดการดูดน้ำกลับเข้าสู่กระแสเลือดมากขึ้น ผลที่ตามมาก็คือจะไปกระตุ้นความดันโลหิตให้สูงขึ้น
3. ไม่ออกกำลังกาย
การออกกำลังกาย ถือเป็นสิ่งสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ระบบต่างๆในร่างกายทำงานได้ปกติ ลดความเสี่ยงในการเกิดน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน การเกิดโรคอ้วนและเบาหวาน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้เช่นกัน
4. เครียดอยู่เป็นประจำ
ความเครียด ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง ดังนั้นแน่นอนว่าหากคุณหลีกเลี่ยงพฤติกรรมนี้ได้ ก็จะเป็นการลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันสูงเกินมาตรฐานนั่นเอง
5. สูบบุหรี่เป็นนิสัย
“นิโคติน” ในบุหรี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายกระตุ้นการผลิตอะดรีนาลีนออกมาจำนวนมาก ซึ่งส่งผลโดยตรงทำให้ความโลหิตสูงขึ้น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมนี้เป็นอย่างยิ่งหากไม่อยากป่วยเป็นโรคความดัน นอกจากนี้แล้วบุหรี่ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดการตีบตันของเส้นเลือดต่างๆอีกด้วย
ที่มาข้อมูล : โรงพยาบาลบางประกอก, โรงพยาบาลเปาโล
ที่มาภาพ : freepik