ไขข้อสงสัย กิ้งกือมีพิษไหม? กัดคนได้หรือไม่-อันตรายแค่ไหน
กรมการแพทย์ ไขข้อสงสัย กิ้งกือมีพิษไหม?สามารถกัดได้หรือไม่-อันตรายต่อคนแค่ไหน?
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า ‘หนานกานต์ สงกรานต์ แสงกาบแก้ว’ แชร์เรื่องราวการโดนพิษกิ้งกือ ผ่านเพจ ‘แม่แฝกใหม่ เฮาฮักกั๋น’ พร้อมระบุข้อความว่า “เตือนกันนะครับ เฝ้าระวังลูกๆหลานๆ ตวยเน้อช่วงนี้ มันนักนา กิ้งกือมีพิษเน้อครับ”
ทั้งนี้ กรมการแพทย์ เคยให้ข้อมูล เพื่อตอบข้อสงสัยให้ประชาชนว่า กิ้งกือมีพิษไหม? สามารถกัดทำอันตรายคนได้หรือไม่ โดยระบุว่า ช่วงที่มีฝนตกบ่อย อาจพบเห็นกิ้งกือในสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่อยู่อาศัย สวนสาธารณะ จึงขอให้คำแนะนำแก่ประชาชนว่ากิ้งกือไม่ใช่สัตว์อันตราย ไม่กัด แต่มีพิษหากสัมผัสถูกตัว สารพิษของกิ้งกือจะถูกปล่อยออกมาจากบริเวณข้างลำตัว มีฤทธิ์ฆ่าสัตว์เล็กๆ เช่น มด แมลง และหากคนสัมผัสจะทำให้เกิดการอักเสบเป็นผื่นแดง หรือทำให้ตาระคายเคืองในกรณีถูกพิษกิ้งกือเข้าตา
กรมการแพทย์ให้ข้อมูล เพิ่มเติมว่า กิ้งกือบางสายพันธุ์เท่านั้นที่จะมีต่อมพิษอยู่ตลอดสองข้างลำตัวสามารถฉีดสารพิษพุ่งออกไปได้ไกล สารพิษมีลักษณะเป็นของเหลวใสไม่มีสี ประกอบด้วยสารกลุ่มไซยาไนด์ (Hydrogen cyanide) ฟีนอล (Phenol) กลุ่มเบนโซควินิน และไฮโดรควิโนน (Benzoquinones/hydroquinones) มีฤทธิ์ทำให้ผิวหนังไหม้ แผลไหม้ มีอาการปวด 2-3 วัน รวมทั้งการระคายเคืองร่วมด้วย
หากถูกพิษของกิ้งกือให้ล้างด้วยน้ำสบู่และน้ำสะอาด ทายาแก้อักเสบ โดยทั่วไปอาการมักจะหายภายใน 1 สัปดาห์ แต่หากพิษเข้าตาอาจทำให้ตาอักเสบ ควรล้างตาด้วยน้ำสะอาดและรีบปรึกษาจักษุแพทย์ทันที เพื่อป้องกันการอักเสบของตาที่อาจเพิ่มมากขึ้น
ข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก หนานกานต์ สงกรานต์ แสงกาบแก้ว / กรมการแพทย์
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก หนานกานต์ สงกรานต์ แสงกาบแก้ว / กรมการแพทย์