(ไฮไลท์)ผลบอลสดยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูเครน พบ อังกฤษ
แฮร์รี่ เคน กดไป 2 ประตูในเกมนี้ บวกกับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สันอีกคนละตุง พา อังกฤษ เอาชนะ ยูเครน 4-0 ส่งผลให้"สิงโตคำราม"ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปพบกับ เดนมาร์ก
ศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่สนาอัลลิอันซ์ อารีน่า ประเทศเยอรมัน "ยูเครน" ลงสนามพบ"สิงโตคำราม" อังกฤษ ลงทำการแข่งขันเวลา 02.00 น.
เริ่มเกมการแข่งขันมาในนาทีที่ 4 ราฮีม สเตอร์ลิง ได้บอลทางฝั่งซ้ายก่อนจ่ายทะลุช่องเข้ากรอบเขตโทษให้ แฮร์รี่ เคน หลุดเข้าไป ก่อนยิงผ่านมือของ จอร์จี้ บุชชาน เข้าประตูไป ช่วยให้ อังกฤษ ออกนำ ยูเครน 1-0
หลังจากนั้นทั้งสองมีมต่างผลัดกันครองบอลเพื่อหวังหาจังหวะทำประตู แต่ยังไม่มีทีมใดที่ทำประตูเพิ่มเติมได้ เกมผ่านไปแล้ว 20 นาที สกอร์ยังคงเดิมที่ อังกฤษ ออกนำ ยูเครน 1-0
นาทีที่ 29 อังกฤษ ได้ฟรีคิกทางฝั่งซ้าย ก่อนเป็น ลุค ชอว์ ที่เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ แล้วเป็น แฮร์รี่ เคน ที่สลัดหนีตัวประกบ ก่อนได้จังหวะโหม่งเต็มๆ แต่บอลเหินข้ามคานออกไป
นาทีที่ 33 อังกฤษ บุกกดดันอย่างหนัก ก่อนเป็นทางฝั่งของ ดีแคลน ไรซ์ ที่จังหวะยิงไกลจากหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งเข้ากรอบแต่ยังเป็น จอร์จี้ บุชชาน ที่ปัดบอลออกมาได้ ก่อนที่กองหลังยูเครนจะสะกัดทิ้งออกมาได้ในจังหวะต่อมา
ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้นไม่มีทีมใดที่ทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก อังกฤษ ออกนำ ยูเครน 1-0
เริ่มครึ่งหลังมาในนาทีที่ 46 จากจังหวะฟรีคิกของอังกฤษ ก่อนเป็น ลุค ชอว์ ที่เปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษแล้วเป็น แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ได้จังหวะขึ้นโหม่งเต็มๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยให้ อังกฤษ นำ ยูเครน 2-0
ต่อมาในนาทีที่ 50 ลุค ชอว์ ได้บอลขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนเปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ แฮร์รี่ เคน ได้จังหวะโหม่งเต็มๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยให้ อังกฤษ นำห่าง ยูเครน 3-0
จากจังหวะเตะมุมของ อังกฤษ ในาทีที่ 63ก่อนเป็น เมสัน เมาน์ท ที่เปิดบอลเข้ามาให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ได้โหม่งเต็มๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยให้ อังกฤษ นำห่าง ยูเครน 4-0
ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้นไม่มีทีมใดที่สามารถทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน อังกฤษ เอาชนะ ยูเครน 4-0 ส่งผลให้"สิงโตคำราม"ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปพบกับ เดนมาร์ก
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ยูเครน (3-4-1-2) : จอร์จี้ บุชชาน ; อิลิย่า ซาบาร์นยี่, เซอร์เก คริฟต์ซอฟ (วิคเตอร์ ทซีกานคอฟ น.35), มีโคล่า มัตวิเยนโก้ ; โอเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ,เซอรเก ซีดอร์ชุค , โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ,วิตาลี่ มิโกเลนโก้ ; มีโคล่า ชาปาเรนโก้ ; อังเดร ยาร์โมเลนโก้, โรมัน ยาเรมชุค
อังกฤษ (4-2-3-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด ; ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ (คีแรน ทริปเปียร์ น.65); ดีแคลน ไรซ์ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.57), คัลวิน ฟิลลิปส์ (จู๊ด เบลลิ่งแฮม น.65); เจดอน ซานโช่, เมสัน เมาน์ท, ราฮีม สเตอร์ลิง (มาร์คัส แรชฟอร์ด น.65); แฮร์รี่ เคน (โดมินิค คาลเวิร์ต-เลวิน น.73)
ไฮไลท์การแข่งขัน