4 ประเด็นหลัก 'แมนซิตี้' คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022-23

เกมพรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 37 ยังไม่เริ่มลงแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็สามารถคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปครองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากว่า อาร์เซน่อล ไปแพ้ให้กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา และเมื่อคืนที่ผ่านมา เป๊ป จัดการส่งผู้เล่นสำรองลงสนามกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา แต่ก็สามารถเก็บชัยชนะเหนือ เชลซี ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้หลังจบเกมเรือใบสีฟ้า ได้ฉลองแชมป์สมัยที่ 7 ของสโมสร

สำหรับการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีอยู่หลากหลายประเด็นให้ได้พูดคุยกันหลังเกม โดยวันนี้ TNN Sports จะหยิบยกมาพูดด้วยกัน 4 ประเด็น

ประเด็นแรก : ความผิดพลาดของ อาร์เซน่อล 

เป็นที่รู้กันดีว่า อาร์เซน่อล เป็นทีมที่ขึ้นนำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก มาโดยตลอดซึ่งกินเวลาไปถึง 248 วัน จนได้รับสถิติที่ว่า เป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกด้วยระยะเวลายาวนานที่สุดที่ไม่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ โดยพวกเขามีจุดเปลี่ยนสำคัญของทีม ที่ทำผลงานสะดุดในช่วง 8 นัดหลังสุด ด้วยการเก็บชัยชนะได้เพียง 2 นัด เสมอ 3 นัด และแพ้ไปถึง 3 นัด ทำให้เสียแชมป์ไปให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เก็บชัยชนะไปครองได้ 12 นัดติดต่อกัน

ประเด็นที่สอง : การยิงแบบถล่มทลายของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์

ศูนย์หน้าวัย 22 ปี ประเดิมฤดูกาลแรกกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้อย่างยอดเยี่ยม เข้าได้ยิงประตูทำลายสถิติดาวซัลโวในหนึ่งฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยการทำ 36 ประตู และยังคงเหลือ การแข่งขันอีก 2 นัด โดยมี แฮร์รี่ เคน กองหน้า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตามมาห่างๆ ที่ 28 ประตู

ฮาแลนด์ สร้างสถิติไว้มากมายกับการมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ปีแรก จนได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลจากสมาคมนักข่าวฟุตบอลไปแล้ว และคาดว่าจะได้ตามมาอีกหลายรางวัล

ประเด็นที่สาม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ยอดกุนซือชาวสแปนิช ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนทำให้ เจมี่ เรดแนปป์ กูรูฟุตบอลในยุคปัจจุบันต้องออกมายกย่องว่าเป็น ยอดกุนซือตลอดกาล ด้วยการทำผลงาน พาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 5 สมัย จาก 7 ฤดูกาลที่ทำงานในพรีเมียร์ลีก จุดหนึ่งที่ เป็ป เข้ามาทำให้ แมนฯ ซิตี้ แข็งแกร่งคือสร้าง เอติฮัด ให้เป็นป้อมปราการเหล็ก โดยพาทีมชนะในบ้านทะลุหลัก 100 นัดไปแล้วตั้งแต่มาคุมทีมเมื่อ 7 ปีก่อน

เป็ป พา แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์สำคัญได้แล้วถึง 12 รายการ ประกอบไปด้วย พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีก คัพ 4 สมัย และ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2 สมัย ทำให้เป็นกุนซือที่ประสบความสำเร็จมากสุดในประวัติศาสตร์สโมสร

ประเด็นที่สี่ : ความคงเส้นคงวาของนักเตะ

แมนฯ ซิตี้ เก็บชัยชนะได้ถึง 27 จาก 35 นัดที่ลงเล่นไปแล้ว โดยที่เหลือเสมอ 4 นัด และแพ้ไปแค่ 4 เกมเท่านั้น ส่งผลให้ลูกทีมของ เป็ป ซิวแชมป์ได้สำเร็จ จาก 35 เกมที่ลงเล่นไปแล้ว แมนฯ ซิตี้ มีผลต่างประตูได้เสียบวก 61 ลูกเลยทีเดียว หลังทำได้ 92 ประตู และโดนคู่แข่งเจาะตาข่ายไปแค่ 31 ลูกเท่านั้น ส่วนในเรื่อง แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่มีค่าเฉลี่ยครองบอลเหนือคู่แข่งมากสุด โดยอยู่ที่ 65.3 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ ไบรท์ตัน ตามมาเป็นอันดับสอง มีค่าเฉลี่ยครองบอลต่อเกมอยู่ที่ 60.9 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่การผ่านบอลก็เป็น "เรือใบสีฟ้า" ที่ทำได้มากสุด หลังผ่านบอลรวมกันไปแล้ว 23,318 ครั้ง