เปิดประวัติ “ดิดดี้” แร็ปเปอร์ฉาวถูกจับคดีค้ามนุษย์ สั่นสะเทือนทั้งฮอลลีวู้ด

เป็นเรื่องที่สั่นสะเทือนวงการเพลง และ ฮอลลีวู้ดหลัง พี ดิดดี้ (P. Diddy) ถูกจับกุมในข้อหาสมรู้ร่วมคิดฉ้อโกง ค้ามนุษย์ และขนส่งเพื่อการค้าประเวณี เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา โดยการจับกุม ในครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางเนื่องจาก มีการกล่าวหาว่าผู้มีชื่อเสียง เซเลบริตี้หลายคนมีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งในรูปแบบของการเป็นเหยื่อ และ เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด 

สำหรับ พี ดิดดี้ (P. Diddy), พัฟ แดดดี้ (Puff Daddy)  หรือ บราเธอร์เลิฟ (Brother Love)  มีชื่อจริงว่า ฌอน ดิดดี้ โคมบ์ส  เกิดเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 1969 ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา 

ดิดดี้ เติบโตในย่านฮาร์เล็มของนิวยอร์ก หลังจากที่พ่อของเขาถูกฆาตกรรมในช่วงที่เขามีอายุเพียง 2 ขวบ และถูกเลี้ยงดูโดยแม่เพียงคนเดียว ดิดดี้ได้เรียนที่ Howard University ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. แต่สุดท้ายก็ลาออกเพื่อมุ่งสู่เส้นทางในวงการเพลง เขาเริ่มทำงานเป็นผู้ช่วยที่ Uptown Records ก่อนจะได้ก่อตั้งค่ายเพลงของตัวเอง

ในปี 1993 ดิดดี้ก่อตั้งค่ายเพลง Bad Boy Records ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของเขา หนึ่งในศิลปินชื่อดังที่เขาปั้นขึ้นมาคือ The Notorious B.I.G. การร่วมงานกับ B.I.G. ทำให้ดิดดี้ได้รับการยอมรับในวงการเพลงฮิปฮอปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้น Bad Boy Records ก็เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากการสร้างสรรค์ศิลปินอย่าง Faith Evans, 112, และ Mase

ต่อมาในปี 1997 ดิดดี้ได้ปล่อยอัลบั้มเดบิวต์ของตัวเองชื่อ No Way Out อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะเพลง "I'll Be Missing You" ซึ่งดิดดี้ทำขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเพื่อนสนิท The Notorious B.I.G. ที่เสียชีวิต]' เพลงนี้ไม่เพียงขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Hot 100 แต่ยังได้รับรางวัลแกรมมี่ด้วย

ดิดดี้ไม่ได้หยุดแค่ในวงการเพลง เขายังประสบความสำเร็จในธุรกิจอื่น ๆ ด้วย เช่น การก่อตั้งแบรนด์เสื้อผ้า Sean John ซึ่งได้รับรางวัลดีไซเนอร์ยอดเยี่ยมจาก Council of Fashion Designers of America (CFDA) ในปี 2004 นอกจากนี้ เขายังมีการลงทุนในธุรกิจเครื่องดื่มวอดก้า Cîroc และเป็นผู้ก่อตั้งช่องโทรทัศน์ Revolt TV ที่เน้นเนื้อหาด้านดนตรีและวัฒนธรรมฮิปฮอป

ดิดดี้ เคยได้รับรางวัลแกรมมี่ถึง 3 ครั้ง รวมถึงรางวัลจากเพลง "I'll Be Missing You" นอกจากนี้ เขายังได้รับการยอมรับในฐานะดีไซเนอร์ด้วยแบรนด์ Sean John ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก นับว่าเขา คือหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการเพลงฮิปฮอปและบันเทิงระดับโลก ไม่เพียงแค่ในฐานะแร็ปเปอร์ แต่ยังเป็นนักธุรกิจและโปรดิวเซอร์เพลงที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างศิลปินชื่อดังหลายคน

สำหรับชีวิตส่วนตัวนั้นดิดดี้มีลูกหลายคนจากความสัมพันธ์กับผู้หญิงหลายคน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Kim Porter นางแบบและนักแสดงที่เขามีลูกด้วยกัน Kim เสียชีวิตในปี 2018 ซึ่งถือเป็นการสูญเสียที่สำคัญในชีวิตของดิดดี้

แม้จะประสบความสำเร็จ และ เป็นที่ยกย่องในฐานะแร็ปเปอร์ที่ทรงอิทธิพล แต่วีรกรรมทางด้านไม่ดีของ ดิดดี้ ก็มีอยู่ไม่น้อย เขาเกี่ยวข้องกับคดีความหลายครั้งอาทิ 

 การทะเลาะวิวาทในไนต์คลับ (1999)

- ในเดือนธันวาคม 1999 ดิดดี้และเจนนิเฟอร์ โลเปซ (Jennifer Lopez) ที่เป็นแฟนสาวของเขาในขณะนั้น ได้ไปอยู่ในไนต์คลับที่กรุงนิวยอร์กซึ่งเกิดเหตุยิงปืนขึ้น หลังจากเหตุการณ์นี้ ดิดดี้ถูกจับและถูกตั้งข้อหาความผิดฐานครอบครองอาวุธปืนอย่างผิดกฎหมาย คดีนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมาก และเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของดิดดี้ สุดท้ายในปี 2001 ดิดดี้ถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดจากข้อหาทั้งหมด

การฟ้องร้องกรณีการละเมิดสัญญา (2006)

ในปี 2006 คดีที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสัญญาระหว่างดิดดี้ และนักดนตรีหลายคนภายใต้ค่ายเพลง Bad Boy Records ได้กลายเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของสื่อ โดยหลายคนอ้างว่าดิดดี้ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางการเงินและข้อตกลงทางธุรกิจที่เป็นธรรม

การถูกฟ้องข้อหาทำร้ายร่างกาย (2015)

ในเดือนมิถุนายน 2015 ดิดดี้ถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกายโดยใช้เครื่องมือออกกำลังกายเป็นอาวุธที่มหาวิทยาลัย UCLA เหตุเกิดขึ้นจากความขัดแย้งกับโค้ชของลูกชายเขา ที่เล่นฟุตบอลให้กับทีมของมหาวิทยาลัย

คดีนี้สิ้นสุดลงโดยไม่มีการฟ้องร้องเพิ่มเติม แต่สร้างความเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนอย่างมากในขณะนั้น

คดีทางแพ่งที่เกี่ยวข้องกับข้อหาละเมิดทางเพศ (2023)

หนึ่งในเหตุการณ์ที่สะเทือนความเชื่อมั่นต่อดิดดี้มากที่สุดคือการถูกฟ้องร้องในคดีทางแพ่งเกี่ยวกับการละเมิดทางเพศในปี 2023 บุคคลที่ฟ้องร้องกล่าวหาว่าดิดดี้ได้กระทำการละเมิดทางเพศเธอในอดีต คดีนี้ยังไม่ได้รับการตัดสินในศาลในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม ดิดดี้ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด

ภาพจาก: AFP