การกลับมาเจอกันอีกครั้ง ของ "ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ" และ "เคต วินสเลต" ใน Revolutionary Road
ครที่เคยประทับใจในฝีมือของคู่ขวัญแห่งฮอลลีวูด จากหนังที่ปังและเปรี้ยงที่สุดแห่งยุค 90 อย่าง “ไททานิค” เตรียมตัวรับชมผลงานของ “ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ” และ “เคต วินสเลต” ที่กลับมาจับคู่กันอีกครั้ง
ในภาพยนตร์ดราม่า แนวคู่รักหักเหลี่ยมโหด โหมดไม่ใช่บู๊ล้างผลานแต่เป็นการสาดอารมณ์ใส่กันขั้นสุด ในเรื่อง “Revolutionary Road”
เรื่องราวของแฟรงค์และเอพริล คู่รักสามีภรรยาที่มีชีวิตอยู่อย่างสุขสงบ มีลูก 2 คน อยู่ในบ้านที่เป็นของตัวเอง แฟรงค์มีหน้าที่การงานการเงินที่มั่นคง ทุกอย่างดูเป็นไปได้ราบรื่นและน่าจะมีความสุข แต่เอพริลกลับไม่คิดอย่างนั้น เธอไม่รู้สึกว่าชีวิตที่เธอมีอยู่นั้นเรียกได้ว่ามีความสุข เธอจึงเริ่มคิดแผนการบางอย่างที่จะทำให้ชีวิตครอบครัวเปลี่ยนไป เธอตัดสินใจที่จะย้ายไปอยู่ปารีส ให้ตัวเธอทำงานเป็นทูต และสามีได้ใช้ชีวิตตามหาสิ่งที่ตัวเองชอบ แผนทุกอย่างดูเป็นไปได้ดี ทั้งคู่ดูมีความสุขกับการตัดสินใจนี้ แต่แล้วเรื่องราวมันกลับไม่ได้ดำเนินไปได้ง่ายแบบนั้น
ภาพจาก TrueVisions
จากแฟรงค์ที่เบื่อและไม่ชอบงานของตัวเองก็ได้รับการเสนอเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น ส่วนเอพริลก็ดันท้องขึ้นมาทำให้ความฝันนั้นเรียกได้ว่าจะต้องหยุดไป
ดูจากเรื่องย่อแล้ว หนังดูธรรมดามากๆ หากไม่ได้นักแสดงแม่เหล็กที่เคยฝากผลงานไว้ในอดีต คนคงไม่เลือกชมภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ในความเรียบง่ายของคู่สามีภรรยา ที่ใครๆ ต่างมองว่าเพอร์เฟค จริงๆแล้วนรกมันอยู่ในจิตใจของตัวละครทั้งคู่ ยิ่งในช่วงครึ่งหลัง ทั้งคู่ระเบิดอารมณ์ใส่กันแบบถึงพริกถึงขิง มันคือเรื่องจริงที่อาจจะเกิดขึ้นกับครอบครัวที่ภายนอกดูสวยงาม ปราศจากปัญหาทางการเงิน แต่ปัญหามันอยู่ที่ความคิดของทั้งคู่มากกว่า เมื่อต่างตอบสนองความต้องการของกันและกันไม่ได้ ปัญหาเล็ก เลยสะสมเป็นปัญหาใหญ่ เป็นปมเล็กๆ ที่ผูกยึดหลายๆ ปม จนยากจะคลาย ซึ่งนักแสดงเล่นกันมันหยด จนคิดว่าหลุดออกมาจากชีวิตของคู่รักจริงๆ
ถือเป็นอีกเรื่องที่พิสูจน์ความสามารถของนักแสดงมาก ที่เล่นหนังเนื้อหาไม่มีอะไรมาก นอกจากทัศนคติที่ไม่ตรงกันของแต่ละคน แต่ด้วยความสามารถทำให้หนังเรื่องนี้ถูกจริตคอหนังได้ไม่ยาก เอาว่าแค่ดูคู่นี้โคจรมาพบกัน มันก็น่าสนใจละว่ามั้ย