"ชั่วฟ้าดินสลาย" อีกครั้ง กับการประชันบทบาทของ "พลอย-อนันดา"
เสน่หาชั่วข้ามคืน ความขมขื่นชั่วนิรันดร์!!! กลับมาอีกครั้งสำหรับภาพยนตร์ผลงานกำกับฯและเขียนบท ของ “หม่อมน้อย” หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล
โศกนาฏกรรมแห่งสัญญารักชั่วนิรันดร์ คืบบทลงทัณฑ์อันเจ็บปวดชั่วชีวิต
ภาพจาก TrueVisions
ภาพยนตร์ไทยเรื่องเยี่ยมจากเวทีสุพรรณหงส์ปี 2553 นำแสดงโดย "อนันดา เอเวอริ่งแฮม" และ "พลอย" เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์
หนังย้อนยุคลงทุนสูงมีความละเมียดละไมในการสร้าง โดดเด่นด้วยการออกแบบในรูปแบบศิลปกรรมล้านนาโบราณและเครื่องแต่งกายตามขนบธรรมเนียมล้านนา เนื้อหาในเรื่องเป็นแนวดราม่าหนักๆสะท้อนถึงความหดหู่ในธรรมชาติของมนุษย์
ภาพจาก TrueVisions
"ชั่วฟ้าดินสลาย" กล่าวถึงยุคสมัยในปีพ.ศ. 2475 ยุพดี (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ม่ายสาวหัวสมัยใหม่กำพร้าทั้งบิดามารดา เธอต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวตั้งแต่วัยเยาว์ ทำให้ส่วนลึกในใจของเธอนั้นแสวงหาซึ่งความรัก ได้สมรสกับ "พะโป้" (ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์) คหบดีม่ายชาวพม่าอายุคราวพ่อ ผู้สืบเชื้อสายมาจากเจ้านายชั้นสูงในรัฐฉาน ซึ่งยุพดีคิดว่าชีวิตของเธอได้ถูกเติมเต็มแล้วในทุกๆด้านจาก "พะโป้" สามีที่เธอรัก
เมื่อยุพดีได้มาพบเจอกับ "ส่างหม่อง" (อนันดา เอเวอริ่งแฮม) หนุ่มพม่าผู้หล่อเหลาแต่แสนบริสุทธิ์ในกามโลกีย์ผู้เป็นหลานชายของพะโป้ ส่างหม่องและยุพดีต่างก็เกิดความเสน่หาต่อกัน
และมิอาจต้านทานความปรารถนาของตน ทั้งคู่ก้าวล้ำเส้นของการเป็นหลานและอาสะใภ้โดยลอบเป็นชู้กัน และแล้วเมื่อพะโป้ได้ล่วงรู้ความจริงอันน่าอัปยศเช่นนี้ พะโป้ตัดสินให้ยุพดี เมียสุดที่รักได้อยู่กินกับ ส่างหม่อง หลานรักอย่างเปิดเผย ภายใต้เงื่อนไขอันแสนโหดร้ายด้วยการล่ามโซ่ตรวนคล้องแขนติดกัน แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็อดทนกับความรักรันทดนี้ไม่ไหว จุดจบของเรื่องนี้ ไม่สวยงามอย่างที่คิดแน่ๆ
หนังสะท้อนให้เห็นว่าคำว่ารักกันจนชั่วฟ้าดินสลายภายใต้ปัญหาต่างๆนั้นมันไม่มีอยู่จริง "พลอย"และ"อนันดา" รวมถึงนักแสดงหลักบรรจงถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้น่าดูชมจนได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี