"นุ่น รมิดา" เปิดใจหลังสูญเสียคุณพ่อ พร้อมเผยตอนนี้ขอจริงจังเรื่องการมีลูก
ไม่ทันได้เตรียมใจ "นุ่น รมิดา" เปิดใจครั้งแรกหลังสูญเสียคุณพ่อ พร้อมเผยตอนนี้ขอหันมาดูแลสุขภาพโดยการกินคลีนเพื่อปรับฮอร์โมนในการเตรียมตัวมีทายาท
หลังจากที่นักแสดงสาว "นุ่น รมิดา ประภาสโนบล" ได้ออกมาแจ้งข่าวเศร้าสูญเสียคุณพ่อไปเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566 ล่าสุดนุ่นก็ได้ออกมาเปิดใจหลังจากที่ครอบครัวของเธอต้องเผชิญกับข่าวร้ายและได้เผยถึงเรื่องการมีทายาทในอนาคตหลังจากที่แต่งงานกับสามี "หลุยส์ สก๊อต" ไปได้สักพักใหญ่แล้ว
โดย "นุ่น" ได้เผยว่าหลังจากที่ สูญเสียคุณพ่อไป เธอยังรู้สึกสับสนเพราะยังคงมีบางวันที่เรายังรู้สึกคิดถึงช่วงเวลาที่คุณพ่อยังอยู่ นุ่นได้เผยอีกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่กระทันหันสำหรับเธอจึงไม่ทันได้เตรียมใจ คุณพ่อไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณพ่อเป็นถุงเส้นเลือดใหญ่โป่งพองในระดับที่ค่อนข้างปริมากแล้วตั้งแต่ช่องท้องถึงทรวงอก แต่ที่ผ่านมาคุณพ่อคิดว่าตัวเองนั้นเป็นโรคกระเพาะ และคุณพ่อต้องเข้าผ่าตัด ซึ่งการผ่าตัดก็ผ่านไปได้ด้วยดี แต่พอผ่านวมาวันที่ 2 หลังจากผ่าตัด คุณหมอก็ขอฟอกไตครั้งที่ 1 วึ่งก็ผ่านไปได้ด้วยดี แต่พอมาเช้าวันที่ 3 คุณหมอก็โทรมาบอกพี่สาวว่าขอฟอกไตอีกรอบเป็นครั้งที่2 และช่วงเวลา 10 โมงของวันนั้นพี่สาวก็โทรมาบอกเราว่าพ่อไม่หายใจแล้ว เมื่อเธอเดิานทางไปถึงโรงพยบาลก็เห็นคุณหมอกำลังปั้มหัวใจคุณพ่อซึ่งนุ่นได้เผยทั้งน้ำตาว่า "เรายังทำใจไม่ได้เพราะว่าต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้ว" และนุ่นยังได้เผยต่ออีกว่า ความรู้สึกมันไม่เหมือนที่สูญเสียแม่เพราะว่าตอนคุณแม่เสียเรามีเวลาทำใจและรู้สึกว่าเขาจะได้ไม่ต้องทนทรมารอีก แต่ในเคสของพ่อเรารู้สึกทำอะไรต่อไม่ถูกเพราะมันกระทันหันไป ซึ่งพอเวลาผ่านไปเราก็รู้สึกว่าต้องอยู่กับความเป็นจริงได้แล้ว ในส่วนของสามี "หลุยส์ สก๊อต" เขาก็ให้กำลังใจตลอด
ภาพจาก IG:noonrami
และนุ่นยังได้เผยความรู้สึกหลังจากที่ต้องสูญเสียทั้งคุณพ่อและคุณแม่ไปว่า เธอนั้นรู้สึกกลัวการสูญเสีย กับการที่ต้องเห็นคนที่ตัวเธอรักสูญเสียไปทีละคน ทำให้รู้สึกว่าตอนที่พ่อแม่ยังอยู่เราทำหน้าที่ดูแลเขาแต่ตอนนี้เหลือแค่เธอแล้วใครจะดูแลเธอ ซึ่งทุกวันนี้เธอยังบอกไม่ถูกว่าตัวเองรู้สึกยังไงเพราะมันมีหลากหลายความรู้สึก
และเรื่องของการมีทายาทนุ่นได้เผยว่าตอนนี้ตัวเธอนั้นไม่ได้รับละครแล้วและได้หันมาดูแลสุขภาพเพื่อเตรียมตัวมีลูก โดยการกินคลีนเพื่อปรับฮอร์โมน และเธอยังได้เผยว่าหามีลูกก็อยากให้ลูกของเธอได้ใช้นามสกุลของฝั่งสามี
