"เป้ย" กลั้นน้ำตาไม่อยู่ สงสารลูกสาว "น้องปาลิน" จับใจ
"เป้ย ปานวาด" ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เผยสังเกตเห็นลูกสาว "น้องปาลิน" หายใจลำบากจึงพาไปตรวจร่างกาย
จากที่คุณแม่คนสวย "เป้ย ปานวาด บุญยรัตกลิน" ได้ออกมาเผยเรื่องราวของลูกสาวคนเล็ก "น้องปาลิน" ว่าตัวลูกสาวตัวน้อยของเธอนั้นต้องเข้ารับการผ่าตัดต่อมอะดินอยด์และทอนซิล โดยก่อนหน้านี้เธอได้โพสต์ข้อความว่า "น้องปาลินจะต้องเข้ารับการผ่าตัดต่อมอะดินอยด์และทอนซิล เพราะต่อมอะดินอยด์ของน้องโตขนาด 90% ซึ่งนั้นก็แปลว่าน้องมีช่องทางเดินหายใจแค่เพียง 10 % เท่านั้น"
ล่าสุดแม่เป้ยได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า "จริงๆ แล้วน้องต้องเข้าผ่าตัดอาทิตย์หน้า เเต่เหมือนปาลินเขาเเก้วหูจะเเตกเลยต้องเลื่อนการผ่าตัดออกไปก่อนเป็นวันที่สิบกว่า มันเชื่อมต่อกันเเล้วมันทำให้เเก้วหูอักเสบมากจน มันจะเเตกพอมันจะแตกเนียมันผ่าไม่ได้ ก็เลยต้องรักษาก่อนนิดนึงแล้วค่อยผ่า..."
โดยเป้ยได้เผยต่อด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือว่า "คือเป้ยสังเกตว่าทำไมเขาหายใจเเรง ก็เลยคุยกับคุณพ่อและก็คนที่บ้าน เขาก็บอกว่าไม่เป็นอะไร เเต่เราด้วยความที่พี่โปรดเคยเป็นมาก่อนสัญชาตญาณความเป็นแม่ พาไปตรวจเราก็พบว่าต่อมอะดินอยด์โตขนาด 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งน้องจะมีทางเดินหายใจเพียงเเค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น คือรักษาไม่ได้ต้องผ่าอย่างเดียว หมอให้ผ่าเลย จริงๆ น้องใช้ชีวิตปกติมาก ปกติจนทุกคนไม่ได้สงสัยว่าเป็นอะไร แต่เราอะคิดว่ามันไม่ปกติ เลยพาไปเช็คก็คือเป็นอย่างที่เราคิดแต่เราไม่ได้อยากให้เป็น อย่างโปรดก็คือจะมีการพ้นยาก่อน มีการทำสลีปเทสก่อน อันนี้ไม่ต้องทำเพราะมันโตมากและมันส่งผลถึงสมองด้วย ส่งผลต่อการเจริญเติบโต แต่ว่าการผ่ามันเป็นอะไรที่โอเคนะคะ แต่ด้วยความที่เราเคยเห็นพี่โปรดแล้วคือมันเจ็บ สิ่งที่กลัวที่สุดคือขั้นตอนการวางยาเพราะเป้ยต้องเป็นคนวางยาน้องเอง"
"ในส่วนของน้องคือน้องยังสดใส เพราะน้องไม่รู้เราบอกกับน้องแค่ว่าคุณหมอจะเอาออกให้ หลังจากนี้หนูจะเป็นเด็กที่เข้มเแข็งมากจากที่กินได้เยอะอยู่แล้วปาลินจะกินได้เยอะขึ้นอีก แล้วก็ให้พี่โปรดเล่าให้ฟังเพราะพี่โปรดเคยมีประสบการณ์มาก่อน พี่โปรดก็บอกสบายมาก นอนไม่รู้เรื่องเลย ปาลินเขาก็เลยไม่กังวลอะไร แล้วเราก็ไม่ได้กังวลให้เขาเห็นด้วย เราได้แต่กังวลในใจ มันก็งงนะตอนแรกเราคิดว่ามันเกิดจากกรรมพันธ์ุรึเปล่าเพราะโปรดก็เป็น แต่หมอบอกว่าน่าจะเป็นจากภูมิแพ้มากกว่า สำหรับเป้ยอย่างถ้ามีใครจะมีทำร้ายลูกเราพร้อมจะเป็นแม่ที่แข็งแกร่งมาก แต่เรื่องความเจ็บป่วยทำไมอยู่ๆ เราอ่อนแอ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงเราควรจะเข้มแข็งมากที่สุด เรารู้แหละว่าทีมแพทย์อะเก่ง แต่หัวอกคนเป็นแม่อะเนอะ"
