เปิดชีวิต “เจษ เจษฎ์พิพัฒ” จากธุรกิจครอบครัวติดลบสู่พระเอกแถวหน้าของไทย
เป็นพระเอกอีกคนของไทย สำหรับ “เจษ เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์” ที่ออกมานั่งเล่าถึงอดีตผ่านรายการชื่อดัง ทั้งเรื่องของครอบครัวในอดีตดูสวยหรูมากแต่ธุรกิจที่บ้านล้มจนต้องขายรถที่บ้านทีละคันและก่อนจะมาเป็นนักแสดงในปัจจุบันผ่านอะไรมาบ้าง
ถ้าหากเอ่ยชื่อถึงพระเอกหน้านิ่ง "เจษ เจษฎ์พิพัฒ" คงไม่มีสาวๆ คนไหนไม่รู้จัก เพราะทั้งหล่อ รวย เป็นถึงทายาทเจ้าของตลาดดังย่านรังสิต
ขอบคุณภาพ IG : @jesjpp
แต่ใครจะรู้หรือไม่ว่าอดีตของหนุ่ม เจษ เจษฎ์พิพัฒ ผ่านอะไรมามากมายก่อนจะมายืนเป็นพระเอกแถวหน้าของไทยได้
ล่าสุดหนุ่ม เจษ เจษฎ์พิพัฒ ได้ออกมานั่งเล่าถึงอดีตของครอบครัวและการก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงผ่านรายการดังว่า
เป็นยังไงบ้างเห็นพัฒนาการในแต่ละเรื่อง
โอ้โห ย้อนไปเรื่องแรกๆก็ไม่ค่อยกล้าดูแล้วครับ อาย รู้สึกว่าตอนนี้เราพัฒนาแล้วพอย้อนกับไปดูแล้วทำไมตอนนั้นเล่นแบบนั้น ตอนนี้ก็ 10 ปีแล้วที่เข้าวงการ
เรื่องแรกที่เข้าวงการเล่นหนัง พจน์ อานนท์ ใช่ไหม
ใช่ครับเรื่องแรกที่เล่นคือ แต๋วเตะตีนระเบิด
ขอบคุณภาพ IG : @jesjpp
ตอนนี้เข้าวงการมานานแล้วได้เล่นกับนักแสดงหลายๆคนมันเกิดกว่าที่เราฝันบ้างไหม
ผมดีอย่างนึ่งที่ผมไม่เคยคาดหวังว่าจะต้องเป็นแบบไหนทำให้เต็มที่กับทุกๆงานพอ มันดีขึ้นก็ดีใจพอมีเรื่องต่อๆไปก็ทำให้ดีขึ้นอีก คำพูดคนนี่แหละที่ทำให้เราพัฒนาได้ง่ายสุดเพราะเขาเป็นคนดูที่ไม่รู้อะไรเลย
ตอนที่จะเข้าสู่วงการที่บ้านว่ายังไงบ้าง
พ่อแม่เลี้ยงปล่อยมาแบบปล่อยมากครับ แต่ละคนจะทำอะไรก็ทำเลยแค่อย่าไปทำเรื่องผิดกฏหมาย
วันนี้ที่บ้านรู้สึกยังไงบ้างที่เห็นลูกฉีกแนวมาอยู่ในวงการบันเทิงเลย
เขาไม่เคยพูดอะไรนะครับ ว่าเขารู้ดีหรือไม่ เราจะเห็นถึงพฤติกรรมคือเรามีละครเรื่องอะไรก็จะดูหรือเรามีงานอะไรเขาก็จะติดตามตลอดโดยที่เราไม่ได้ยื่นให้เขาดูมาก่อนเขาก็ภุมิใจกับลูกทุกคนในแบบที่รู้ว่าลูกเขาทำอะไรที่อยากทำแล้วมันมีความสุข
วงการบันเทิงให้อะไรกับคุณบ้าง
โห้ ให้เยอะมากครับผมรู้สึกว่า การที่ผมได้เข้ามาแล้วต่อสู้ด้วยตัวเองได้เจอคนหลากหลายมันทำให้เรามีวุฒิภาวะสูงขึ้น ผมลองคิดว่าถ้าเรียนจบปกติแล้วไปทำงานปกติก็จะเจอคนที่จบมาคล้ายๆกันมาอยู่ที่เดียวกันมันจะทำให้เรารู้อยู่แค่เรามุมเดียว แต่เราอยู่ในวงการเราเจอพี่ๆ เจอเยอะไปหมดก็เลยเหมือนโตขึ้นอยู่กับคนได้ง่ายมากขึ้น
ขอบคุณภาพ IG : @jesjpp
ที่ตลาดทั้งหมดกี่ไร่
โห้ก็หลายร้อยครับ
ที่บ้านก็เคยประสบวิกฤตหนักมา
ใช่ครับ ตอนปี 40 ครับ ที่จริงคุณพ่อไม่ได้ทำตลาดคุณพ่อไปเรียนเมืองนอกมาแล้วกลับมาที่ไทยมาทำอสังหาทรัพย์และก็ทำหมู่บ้านจัดสรร ตอนนั้นทำอะไรก็ง่ายเลยกู้เงินมาทำอยู่เรื่อยๆ พอเข้าปี 40 ธุรกิจก็ล้มจนต้องปิดธุรกิจ
ความเครียดตอนนั้นในครอบครัวเป็นยังไงกันบ้าง
ที่จริงต้องชมคุณพ่อและคุณแม่เลยว่า ความเครียดตอนนั้นไม่ถูกส่งมาให้ลูกๆเลย ลูกๆยังมีชีวิตเหมือนเดิม แต่ก็มีบางวันรถที่บ้านหายไปทีละคัน หรือเห็นว่ามีคนมาเอารถไป ตอนนั้นรู้ว่าท่านทั้ง2เหนื่อยกันมากๆ
ขอบคุณภาพ IG : @jesjpp
ขอบคุณภาพ IG : @jesjpp
ขอบคุณภาพ IG : @jesjpp
วันนี้ที่บ้านรู้สึกยังไงบ้างที่เห็นลูกฉีกแนวมาอยู่ในวงการบันเทิงเลย
เขาไม่เคยพูดอะไรนะครับ ว่าเขารู้ดีหรือไม่ เราจะเห็นถึงพฤติกรรมคือเรามีละครเรื่องอะไรก็จะดูหรือเรามีงานอะไรเขาก็จะติดตามตลอดโดยที่เราไม่ได้ยื่นให้เขาดูมาก่อนเขาก็ภุมิใจกับลูกทุกคนในแบบที่รู้ว่าลูกเขาทำอะไรที่อยากทำแล้วมันมีความสุข
วงการบันเทิงให้อะไรกับคุณบ้าง
โห้ ให้เยอะมากครับผมรู้สึกว่า การที่ผมได้เข้ามาแล้วต่อสู้ด้วยตัวเองได้เจอคนหลากหลายมันทำให้เรามีวุฒิภาวะสูงขึ้น ผมลองคิดว่าถ้าเรียนจบปกติแล้วไปทำงานปกติก็จะเจอคนที่จบมาคล้ายๆกันมาอยู่ที่เดียวกันมันจะทำให้เรารู้อยู่แค่เรามุมเดียว แต่เราอยู่ในวงการเราเจอพี่ๆ เจอเยอะไปหมดก็เลยเหมือนโตขึ้นอยู่กับคนได้ง่ายมากขึ้น