เลือกตั้ง 2566 "สุชาติ" ชี้ประธานสภาฯ ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ
อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ติงแถลงการณ์พรรคก้าวไกล ระบุตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ใช่ของพรรคการเมือง ใช้อำนาจตามอำเภอใจไม่ได้ วอนอย่ากล่าวหาสภาในทางเสียหาย เพราะเหมือนกับตำหนิการทำหน้าที่ของตัวเองด้วย แย้มมีกระแสเชียร์ให้นั่งประธานสภาฯชุดนี้ สุดท้ายอยู่ที่ สมาชิกทั้งสภาฯ เป็นผู้ลงมติร่วมกัน
อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ติงแถลงการณ์พรรคก้าวไกล ระบุตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ใช่ของพรรคการเมือง ใช้อำนาจตามอำเภอใจไม่ได้ วอนอย่ากล่าวหาสภาในทางเสียหาย เพราะเหมือนกับตำหนิการทำหน้าที่ของตัวเองด้วย แย้มมีกระแสเชียร์ให้นั่งประธานสภาฯชุดนี้ สุดท้ายอยู่ที่ สมาชิกทั้งสภาฯ เป็นผู้ลงมติร่วมกัน
นายสุชาติ ตันเจริญ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค เพื่อไทย ในฐานะอดีตรองประธานสภาฯ กล่าวถึงแถลงการณ์ของพรรคก้าวไกลและคำให้สัมภาษณ์ของแกนนำพรรค เกี่ยวกับตำแหน่งประธานสภา โดยมองว่า อาจทำให้สังคมเข้าใจผิดได้ว่าประธานสภาฯ และ นายกรัฐมนตรี ใช้ดุลพินิจเกี่ยวกับการตรากฎหมายยิ่งกว่าเจตจำนงของ ส.ส.ที่เป็นตัวแทนของประชาชน และการอ้างว่าเป็นประเพณีที่พรรคการเมืองที่ได้คะแนน เสียงเป็นอันดับ 1 ในสภาฯ จะได้รับตำแหน่งประธานสภาฯนั้น ไม่ตรงตามข้อเท็จจริง เพราะในประวัติ ศาสตร์มีหลายครั้งที่ประธานสภาฯไม่ได้มาจากพรรค ที่มี ส.ส.มากที่สุด
ที่ผ่านมาทุกสมัยประธานสภาฯ จะมาจากการเลือกของเพื่อน ส.ส.ในสภาฯ ไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่งเป็นผู้เลือก และการปฏิบัติหน้าที่ของประธานสภาฯต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ตามกรอบที่รัฐธรรมนูญ ตลอดจนข้อบังคับการประชุม สภาฯกำหนด สำหรับการบรรจุวาระการประชุมสภาฯ รวมไปถึงวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ต่างๆ ประธานสภาฯไม่มีอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุมสภาฯ การจะบรรจุร่าง พ.ร.บ.ของพรรคที่ตน สังกัดต้องบรรจุตามลำดับ ดังนั้นประธานสภาฯไม่มีสิทธิเลือกบรรจุตามอำเภอใจได้ และไม่มีสิทธิ์ที่จะ เลื่อนร่าง พ.ร.บ.ที่บรรจุไปแล้วขึ้นมาพิจารณา เพราะเป็นเรื่องของที่ประชุมสภาฯต้องตกลงกัน
นายสุชาติ มองว่า ขณะนี้มีความพยายามแย่งชิงตำแหน่ง ประธานสภาฯ กันระหว่างพรรคอันดับ 1 และอันดับ 2 เป็นเรื่องการเจรจาต่อรองกันทางการเมืองที่เจรจากัน เป็นการภายใน และพรรคก้าวไกลเองมีอดีต ส.ส.ร่วม ทำหน้าที่ในสภาฯ ชุดที่แล้วหลายคน การกล่าวหาสภาฯในทางเสียหาย เหมือนกับตำหนิการทำหน้าที่ของตัวเองด้วย จึงอยากให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับสภาฯ หรืออำนาจหน้าที่ของประธานสภาฯ
ทั้งนี้ยอมรับส่วนตัวมีคนเชียร์ จะถูกเสนอชื่อเป็นประธานสภาฯในสภาฯชุดนี้ แต่ขึ้นอยู่กับพรรคที่จะเสนอชื่อใคร และต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมสภาฯ ด้วยว่าจะลงมติเลือกหรือไม่ แต่สาระสำคัญไม่ใช่ อยู่ที่ใครได้เป็นประธานสภาฯ เพราะความสำคัญอยู่ ที่การที่สภาฯได้เริ่มทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนที่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งมาได้เมื่อใดมากกว่า
อย่างไรก็ตาม หากพรรค พท.ได้โควตาประธานสภาฯจริง นายสุชาติ อาจได้รับการเสนอชื่อ ซึ่งเจ้าตัว มองว่าการลงมติเลือกผู้ทำหน้าที่ประธานสภาฯ ไม่ใช่เรื่องของพรรคใด แต่เป็นการลงมติร่วมกันของ ส.ส.ทั้งสภาฯ ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ตนไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งและไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นอุปสรรคที่อาจทำให้การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า เพราะปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนรอไม่ได้ จึงฝากไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เร่งพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง เพื่อให้สภาฯเดินหน้าการทำงานได้โดยเร็ว