TNN "ไฮเออร์" เชื่อมั่นไทย จ่อทุ่มลงทุนเพิ่ม ตั้งเป้าเบอร์ 1 ทุกผลิตภัณฑ์ l การตลาดเงินล้าน

TNN

เศรษฐกิจ

"ไฮเออร์" เชื่อมั่นไทย จ่อทุ่มลงทุนเพิ่ม ตั้งเป้าเบอร์ 1 ทุกผลิตภัณฑ์ l การตลาดเงินล้าน

ไฮเออร์ เดินหน้าแผนการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในประเทศไทยต่อเนื่อง หลังปีที่แล้วลงทุนไป 10,000 ล้านบาท ปีนี้จะใช้งบลงทุนมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมตั้งเป้ายอดขาย 14,000 ล้านบาท

คุณ ต่ง เจี้ยนผิง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการหารือกับภาครัฐของไทย ถึงแผนการลงทุนตั้งโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติมในประเทศไทย อีกทั้ง จะมีการหารือร่วมกัน ในระหว่างการเดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีน ของนายกรัฐมนตรีไทย ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้อีกด้วย ซึ่งเมื่อมีความชัดเจน บริษัทฯ จะประกาศแผนการลงทุนอีกครั้ง

อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน ไฮเออร์ มีโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยอยู่ 2 แห่ง คือ ที่จังหวัดปราจีนบุรี เป็นโรงงานผลิตตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศ ส่วนอีกหนึ่งแห่ง เพิ่งเริ่มก่อสร้างไปเมื่อปีที่แล้ว ด้วยงบลงทุน 10,000 ล้านบาท อยู่ที่จังหวัดชลบุรี 

เป็นโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน ซึ่งการก่อสร้างยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และคาดว่าจะเริ่มผลิตเฟสแรกได้ในเดือนตุลาคมปี 2568 นี้ และเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2570 โรงงานที่จังหวัดชลบุรี จะเป็นฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศที่ใหญ่ที่สุดของไฮเออร์ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยกำลังการผลิตกว่า 6 ล้านเครื่องต่อปี ซึ่งเน้นการส่งออกร้อยละ 70 และอีกร้อยละ 30 สำหรับตลาดในไทย

คุณ ต่ง กล่าวอีกว่า ไฮเออร์ มีแผนเชิงกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโต และลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของการลงทุนเพิ่มเติม มีแผนจะตั้งโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ เป็นต้น ในเบื้องต้นคาดว่า จะใช้งบลงทุนมากกว่าปีก่อน (ซึ่งปีที่แล้วลงทุนไป 10,000 ล้านบาท) 

ส่วนแผนการสร้างการเติบโตในตลาดประเทศไทย ปี 2568 นี้ บริษัทฯ ตั้งงบการตลาดไว้ที่ 1,200 ล้านบาท สำหรับการทำกิจกรรมการตลาดเชิงรุกทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น ตลอดจน จัดกิจกรรมโรดโชว์ที่ร่วมมือกับช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย รวมถึง ต่อยอดกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง เช่น การเข้าไปเป็นสปอนเซอร์การแข่งขันแบดมินตัน ไทยแลนด์ มาสเตอร์ 2025 (Thailand Master 2025) และ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2025 (Thailand Open 2025) เป็นต้น

ด้านผลประกอบการของ ไฮเออร์ ปี 2567 มียอดขายอยู่ที่ 11,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าร้อยละ 22  ซึ่งเติบโตมากกว่าภาพรวมของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่เติบโตร้อยละ 5.4 และมีมูลค่าประมาณ 70,000 ล้านบาท 

ปี 2568 ตั้งเป้าหมายยอดขายสำหรับบริษัทฯ ไว้ที่ 14,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 28 ซึ่งนอกจากแผนส่งเสริมด้านการตลาดแล้ว คุณ ต่ง (ประธานกรรมการบริหาร ไฮเออร์ ประเทศไทย) กล่าวว่า ในด้านผลิตภัณฑ์ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยี ที่ให้ความสะดวกสบายด้านการใช้งานกับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น

อาทิ เครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกับนวัตกรรม AI สามารถสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย เป็นครั้งแรกของแบรนด์ไฮเออร์ โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต หรือ ไวไฟ และ ตู้เย็น ที่มีระบบ IoT สามารถควบคุมในระยะไกลได้ผ่านสมาร์ตโฟน เช่น สามารถสั่งผ่านมือถือให้ผลิตน้ำแข็งก่อนถึงบ้านได้ เป็นต้น 

ด้านกลยุทธ์การสร้างการเติบโต ด้านช่องทางการขาย คุณ เกษมสันต์ โอซาว่า ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ไฮเออร์ ประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า เตรียมแผนที่จะขยายทุกช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยตั้งเป้าสัดส่วนช่องทางโมเดิร์นเทรดเพิ่มขึ้นร้อยละ 35 ช่องทางตัวแทนผู้จัดจำหน่ายดีลเลอร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ช่องทางอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นร้อยละ 35 และช่องทาง B2B เพิ่มขึ้นร้อยละ 15

และปีนี้ จะเปิดตัวเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ใน 7 หมวดหมู่ยอดนิยม รวมกว่า 50 รุ่น ซึ่งจะครอบคลุมเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งขนาดเล็ก และ ขนาดใหญ่ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกเซกเมนต์ ได้แก่ สินค้าเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ตู้แช่ ทีวี และเครื่องทำน้ำอุ่น

ปัจจุบัน ไฮเออร์ มีส่วนแบ่งทางการตลาดในภาพรวมอยู่ที่ กว่าร้อยละ 10 ยังเป็นอันดับที่ 3 ในตลาดประเทศไทย แต่อย่างไรก็ดี มีวิชัน และเป้าหมายที่จะครองอันดับ 1 ในทุกผลิตภัณฑ์ในอนาคต

แต่ปีที่ผ่านมา กลุ่มเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน บริษัทฯ ครองอันดับ 1 ของตลาด ด้านจำนวน ในตลาดออฟไลน์ ด้วยยอดขาย 5,100 ล้านบาท และตั้งเป้าในปีนี้ จะมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ล้านบาท และจะเป็นอันดับ 1 ทั้งในตลาดออฟไลน์ และออนไลน์ ส่วนตู้เย็น ปีที่ผ่านมา อยู่อันดับ 3 ด้วยยอดขาย 1,600 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้าจะขยับขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ในตลาด

ผู้บริหาร ไฮเออร์ กล่าวด้วยว่า ด้วยภาวะ ลานีญ่า ซึ่งเกิดขึ้นในไทย ทำให้คาดว่า ยอดขายแอร์ในภาพรวมของตลาดจะชะลอตัวลง แต่กลุ่ม ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า จะเติบโตดึขึ้น ผลักดันโดยตลาดอีคอมเมิร์ซ ที่ปัจจุบันการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่สะดวก รวมถึงการแข่งขันที่สูงขึ้นและราคาที่ถูกลง ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้มากขึ้น 


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง