ดาราจีนหายตัว ไม่กระทบท่องเที่ยวไทย

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากกรณีดาราจีน ซิง ซิง หายตัวไป ททท.มีการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พบว่า มีผลกระทบต่อความรู้สึกของชาวจีนบนโลกโซเชียล แต่ในเชิงการเดินทางจริง แต่ยังไม่กระทบต่อภาคการท่องเที่ยว และยอดจองการเดินทางของชาวจีนและจากการยืนยันล่าสุด ระบุว่าเคสดาราจีนไม่ได้เป็นการลักพาตัว แต่ ททท. ทั้ง 5 สำนักงานในจีนยังคงติดตามข่าวทุกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข่าวทั้งในมุมแสดงความเป็นกลางว่า ต้องรอข้อสรุปว่าใช่การลักพาตัวจริงหรือไม่ แต่ก็มีข่าวด้านลบอยู่เหมือนกัน เกี่ยวกับประเด็นความปลอดภัยในประเทศไทย และเมียนมา ทำให้ ททท.ต้องพยายามอธิบายให้ชัดว่า คนในประเทศจีนต้องระวังเรื่องภัยไซเบอร์ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เหมือนกับที่คนไทยต้องระวังเรื่องนี้เช่นกัน เพราะตอนนี้มีอาชญากรรมทางไซเบอร์หลากรูปแบบทั่วทุกมุมโลก 

ทั้งนี้ ททท. ได้ประสานกับตำรวจท่องเที่ยวว่า ต้องสร้างความเชื่อมั่น ตอกย้ำเรื่องความปลอดภัย ซึ่งเป็นเรื่องที่ประเทศไทยให้ความสำคัญ ตาม คัมภีร์ 3 สิ่ง ที่ยึดถือในการดูแลนักท่องเที่ยว ได้แก่ ความปลอดภัย ได้คุณภาพ และได้ประสบการณ์ เพราะตอนนี้กำลังเข้าสู่เทศกาลตรุษจีน เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจีนกำลังตัดสินใจจองการเดินทางมาไทย

โดยในปี 2568 จะมีการจัดงานตรุษจีน ในวาระแห่งการเฉลิมฉลองครบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่ง ททท.คาดว่า จะเป็นช่วงตรุษจีนที่มีชาวจีนเดินทางเข้าไทยคึกคักมากกว่าปีที่แล้ว

ส่วนเป้าหมายตลาดจีนเที่ยวไทย ปี 2568 ททท.ตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวจีน 9 ล้านคน และอาจแตะ 10 ล้านคนในกรณีดีที่สุดสร้างรายได้ราว 500,000 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 48,000-49,000 บาท/คน/ทริป หลังเห็นสัญญาณการฟื้นตัวดีต่อเนื่องของจำนวนเที่ยวบิน ทั้งเที่ยวบินประจำและเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) ที่บินมาจากเมืองรองระดับ 2 และ 3 ตามกลยุทธ์การทำตลาดของ ททท.ที่ไม่ได้รุกเจาะแค่เมืองหลักในจีน เช่น เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กว่างโจว เฉิงตู และคุนหมิงเท่านั้น แต่มุ่งเชื่อมโยงสายการบินไปยังเมืองรองระดับ 3 ด้วย

ที่มา TNN