เงินหมื่นระยะ2 ประกาศชื่อ 20 ม.ค.นี้
“จุลพันธ์” รมช.คลัง คาดประกาศรายชื่อผู้สูงอายุ รับเงิน 10,000 บาทผ่าน ทางรัฐ 20-21 ม.ค.นี้ ยืนยันโอนเงิน 29 ม.ค.68
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ 10,000 บาทนั้น ยืนยันว่า รัฐบาลจะทำการโอนเงินให้ก่อนวันที่ 29 มกราคม 2567 แน่นอนโดยขั้นตอนขณะนี้ คือ การส่งข้อมูลจาก สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) หรือ ดีจีเอ มาที่ กระทรวงการคลัง เพื่อตรวจสอบข้อมูล คาดว่าปลายสัปดาห์นี้ข้อมูลทั้งหมดก็จะเรียบร้อย จากนั้นกระทรวงการคลัง จะใช้เวลาในการจัดการอีก 3-4 วัน แล้วจึงส่งให้กรมบัญชีกลาง เพื่อตรวจสอบข้อมูล ก่อนโอนเงิน อีก 7-8 วัน
ทั้งนี้ยืนยันว่า เงิน 10,000 บาทสำหรับผู้สูงอายุ พร้อมโอนก่อนวันที่ 29 มกราคมนี้แน่นอน ส่วนที่ว่าจะเป็นวันไหนนั้น ขอเวลานัดหมายกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีก่อน จริงจะเคาะวันที่โอนเงินได้ก่อน ส่วนวิธีการประกาศรายชื่อ จะใช้ช่องทางของ แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เนื่องจากเป็นช่องทางเดียวกับที่เปิดให้ลงทะเบียน โดยกระทรวงการคลัง จะส่งผลการตรวจสอบไปให้กับทาง ดีจีเอ เพื่อให้นำเข้าระบบแอปทางรัฐ คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบรายชื่อได้ประมาณวันที่ 20-21 มกราคมนี้
ขณะที่กรณีที่กลุ่มผู้สูงอายุที่ได้สิทธิ แต่อาจจะมีปัญหา ทำให้ไม่ได้รับเงินในรอบก่อนวันที่ 29 มกราคม อาทิ ไม่ได้ผูกบัญชี กับระบบพร้อมเพย์ ก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะกระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลางได้จัดทำรับจ่ายซ้ำ อีก 3 รอบ เพื่อป้องกันการตกหล่น และเป็นการให้อุทธรณ์สิทธิสำหรับคนกลุ่มนี้ด้วย
ส่วนผลต่อเศรษฐกิจนั้น ต้องยอมรับว่า โครงการเงิน 10,000 บาทกลุ่มผู้สูงอายุ ระยะ 2 มีขนาดโครงการเล็กกว่า โครงการระยะ 1 ดังนั้นผลที่เกิดอาจจะไม่เท่าเดิม แต่รัฐบาลก็ทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกหลายโครงการ ได้แก่ โครงการเงินดิจิทัล ระยะที่ 3 คาดว่าจะมาในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2568 และโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน หรือ SML ที่คาดว่าจะออกมาในช่วงเดียวกัน
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลได้ออกไปแล้วหลายโครงการ คือ โครงการไร่ละพัน หรือ โครงการโอนเงินไร่ละ 1,000 บาทไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดค่าใช้จ่ายในการเพาะปลูกข้าว และโครงการอีซี่ อี-รีซีท ที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินใช้จ่ายเกิดขึ้นใหม่ ราว 70,000 ล้านบาท ทำให้รวมแล้ว เม็ดเงินกว่า 150,000 ล้านบาทลงสู่ระบบเศรษฐกิจ
ที่มา TNN
ข่าวแนะนำ