ญี่ปุ่น เตรียมเพิ่มต้นทุนชำระหนี้เป็นร้อยละ 2
ญี่ปุ่น เตรียมเพิ่มต้นทุนการชำระหนี้เป็น 2% สอดคล้องแนวโน้มทั่วโลก แม้เสี่ยงเพิ่มแรงกดดันทางการคลัง ขณะที่ อัตราหนี้สาธารณะญี่ปุ่น อยู่ในระดับสูง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรางานข้อมูลโดยอ้างอิงจากแหล่งข่าว ระบุว่า กระทรวงการคลังของญี่ปุ่นเตรียมปรับขึ้นอัตราต้นทุนการชำระหนี้ (Debt Service Cost) เป็น 2% สำหรับปีงบประมาณที่เริ่มในเดือนเม.ย. 2568
ทั้งนี้ การปรับขึ้นดังกล่าว เป็นการเพิ่มขึ้นจากอัตราปัจจุบันที่ 1.9% แม้ว่าจะต่ำกว่าอัตราเบื้องต้นที่ 2.1% ซึ่งกำหนดไว้ในระหว่างการรวบรวมคำขอจัดทำงบประมาณในเดือนส.ค.
นอกจากนี้ อัตราใหม่นี้สะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งขับเคลื่อนโดยการปรับนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) โดยที่น่าสังเกตคือ BOJ ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปี 2566 และคาดว่าจะปรับขึ้นอีกครั้งในช่วงต้นปี 2567
ขณะที่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นเป็นแตะที่ระดับ 1.055% จากระดับ 0.564% ในเดือนม.ค.
การพัฒนานี้สอดคล้องกับแนวโน้มระดับโลกที่กว้างขึ้น รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายที่เชื่อมโยงกับแรงกดดันเงินเฟ้อภายใต้รัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ ภายใต้การบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์
แม้ว่าอัตราที่เพิ่มขึ้นจะบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ แต่ก็เพิ่มความท้าทายให้กับสุขภาพทางการคลังของญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน คาดว่าอัตราที่สูงขึ้นจะทำให้ต้นทุนการชำระหนี้ซึ่งอยู่ภายใต้แรงกดดันอยู่แล้วยิ่งเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประมาณการว่า อัตราส่วนหนี้สาธารณะของญี่ปุ่น สูงเกิน 250% ของ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว
ที่มา บลูมเบิร์ก
ข่าวแนะนำ