"อิเกีย" จ่อขึ้นราคาสินค้า หากเจอภาษีสหรัฐฯ l การตลาดเงินล้าน
"อิเกีย" (Ikea) บริษัทผู้ค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ของสวีเดนอาจขึ้นราคาสินค้า หากเจอมาตรการภาษีสหรัฐฯ
CNN รายงานอ้างความเห็นของ "เจสเปอร์ โบรดิน" CEO ของ อิงกา กรุ๊ป ผู้บริหารห้างค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน "อิเกีย" (Ikea) ที่ระบุว่า มาตรการภาษีศุลกากรจะทำให้เป็นเรื่องยากที่จะขายสินค้าในราคาย่อมเยา โดยทั่วไปแล้ว มาตรการภาษีศุลกากรไม่น่าจะสนับสนุนบริษัทข้ามชาติและการค้าระหว่างประเทศ ขณะที่สุดท้ายแล้ว ความเสี่ยงก็จะกลายเป็นภาระที่ลูกค้าจะต้องเป็นผู้จ่าย
มาตรการภาษีจะทำให้เป็นเรื่องยากในการรักษาราคาให้อยู่ในระดับต่ำ และเป็นระดับที่ไม่ไกลเกินเอื้อมสำหรับผู้คนจำนวนมาก ซึ่งเป็นเป้าหมายของ "อิเกีย"
อย่างไรก็ตาม "อิเกีย" ไม่เคยได้รับประโยชน์จากการที่ภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้น แต่นี่เป็นเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุม จึงจำเป็นจะต้องทำความเข้าใจและปรับตัว
ความเห็นของ CEO อิงกา กรุ๊ป เป็นส่วนหนึ่งของเสียงสะท้อนจากบรรดาผู้นำธุรกิจที่ออกมาเตือนว่า การจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของ "โดนัลด์ ทรัมป์" ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจกระทบต่อกระเป๋าสตางค์ของผู้คนทั่วโลก
ทั้งนี้ "ทรัมป์" ประกาศจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตราร้อยละ 25 และขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีกร้อยละ 10
สินค้าส่วนใหญ่ของ อิเกีย ราวร้อยละ 70 ผลิตในยุโรป ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 30 ผลิตในเอเชีย ส่วนใหญ่ผลิตในจีน
ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา อิเกีย ลดราคาสินค้าเพิ่มเติมในทุกตลาดทั่วโลก เนื่องจากต้นทุนการขนส่งและวัตถุดิบปรับตัวลดลงแล้ว
เมื่อปีที่แล้ว "อิเกีย" ลดราคาสินค้าประมาณ 2,000 รายการ มูลค่ากว่า 2.1 พันล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยผู้บริโภคที่เผชิญกับเงินเฟ้อสูง ส่งผลให้รายได้ของบริษัทลดลง แม้จะขายสินค้าได้มากขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ระหว่างเดือน ก.ย.-พ.ย. 2566 อิงกา ทุ่มเงินลงทุนไปแล้วกว่า 1,000 ล้านยูโร ราว 38,822 ล้านบาท เพื่อปรับลดราคาสินค้าในตลาดต่าง ๆ
ข่าวแนะนำ