“นายกฯ ญี่ปุ่น”กดดันบริษัทปรับขึ้นค่าจ้างอีก
“นายกฯ ญี่ปุ่น” กดดันบริษัทปรับขึ้นค่าจ้างอีกครั้ง แม้ข้อตกลงเรื่องค่าจ้างโดยเฉลี่ยปีนี้สูงสุดในรอบ 33 ปี หวังรักษาเสถียรภาพเงินเฟ้อ-การเติบโตทางเศรษฐกิจ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เรียกร้องให้บริษัทต่างๆ ปรับขึ้นค่าจ้างให้กับพนักงานต่อไป เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นต้องการรักษาเสถียรภาพของเงินเฟ้อและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็ตอบสนองต่อค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย
ทั้งนี้ข้อตกลงเรื่องค่าจ้างโดยเฉลี่ยในปีนี้แตะระดับสูงสุดในรอบ 33 ปี เนื่องจากบริษัทต่างๆ ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าจ้างท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการผลักดันของนายกรัฐมนตรีเกิดขึ้นในขณะที่สหภาพแรงงานและบริษัทต่างๆ กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเจรจาเรื่องค่าจ้างซึ่งจะสิ้นสุดลงในฤดูใบไม้ผลิหน้า ซึ่งการเจรจาดังกล่าวได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิดจากรัฐบาลและธนาคารแห่งกลางญี่ปุ่น เนื่องจากทางการมองว่าการปรับขึ้นค่าจ้างเป็นปัจจัยสำคัญในการบรรลุวัฏจักรการเติบโตทางเศรษฐกิจในเชิงบวก
แม้ว่าค่าจ้างจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้ แต่ค่าจ้างจริงยังคงทรงตัวเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่อง ค่าจ้างจริงทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเพียง 2 เดือนในช่วงปีที่ผ่านมา ในขณะที่มาตรวัดราคาหลักของประเทศยังคงอยู่ที่หรือสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของ BOJ เป็นเวลา 30 เดือน
อย่างไรก็ตาม ในความพยายามช่วยเหลือครัวเรือนที่ต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น คณะรัฐมนตรีของอิชิบะได้อนุมัติแพ็คเกจเศรษฐกิจมูลค่า 21.9 ล้านล้านเยนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งรวมถึงขั้นตอนต่างๆ เพื่อส่งเสริมการปรับขึ้นค่าจ้างและช่วยบรรเทาผลกระทบของเงินเฟ้อ รัฐบาลมีแผนที่จะแจกเงินช่วยเหลือแก่ครัวเรือนที่มีรายได้น้อย
อิชิบะยังได้ให้คำมั่นที่จะบรรลุค่าจ้างขั้นต่ำที่ 1,500 เยนต่อชั่วโมงในปี 2563 ซึ่งเป็นการบรรลุเป้าหมายอันทะเยอทะยานที่ฟูมิโอะ คิชิดะ อดีตนายกรัฐมนตรีเสนอ ไว้ โโยขอให้รัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีจัดทำแผนภายในฤดูใบไม้ผลิหน้า เพื่อให้ค่าจ้างขั้นต่ำสามารถเพิ่มขึ้นได้ต่อไป
ที่มา บลูมเบิร์ก
ข่าวแนะนำ