“ทรัมป์” รีดภาษี 3 คู่ค้ากระทบบริษัทใดบ้าง

“โดนัลด์ ทรัมป์” ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งสัญญาณเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจาก 3 ประเทศคู่ค้ารายใหญ่สุด ได้แก่ แคนาดา เม็กซิโก และจีน ซึ่งหลัก ๆ จะกระทบบริษัทที่มีฐานการผลิตในเม็กซิโกที่มีต้นทุนต่ำ โดยเฉพาะค่ายรถจากเอเชีย

“ฮอนด้า มอเตอร์” ผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่น มีการผลิตราวร้อยละ 80 ในเม็กซิโกที่ส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ “ชินจิ อาโอยามะ” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ระบุเมื่อต้นเดือนว่า หากสหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากเม็กซิโก บริษัทก็จะต้องพิจารณาย้ายการผลิต

“นิสสัน มอเตอร์” ก็มีโรงงาน 2 แห่งในเม็กซิโก ผลิตรถยนต์ได้เกือบ 505,000 คัน ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ รวมถึงรถยนต์รุ่นเซนทรา (Sentra), เวอร์ซา (Versa) และคิกส์ (Kicks) ที่ส่งไปตลาดสหรัฐฯ 

ส่วน “โตโยต้า มอเตอร์” มีฐานการผลิตในเม็กซิโกเล็กกว่าเพื่อนร่วมชาติ โดยโรงงาน 2 แห่งผลิตรถกระบะ “ทาโคมา” (Tacoma) ส่งออกไปสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว ยอดขายรถรุ่นนี้อยู่ที่ 230,000 คัน คิดเป็นร้อยละ 10 ของยอดขายในตลาดสหรัฐฯ // ด้าน “มาสด้า” ส่งออกรถจากเม็กซิโกราว 120,000 คันไปสหรัฐฯ ในปีที่แล้ว

แบรนด์ “เกีย” ในเครือ “ฮุนได” ของเกาหลีใต้ ก็มีโรงงานในเม็กซิโกที่ผลิตรถยนต์ SUV รุ่นซาตาเฟ (Santa Fe) จำนวนไม่มากเพื่อส่งออกไปยังสหรัฐฯ 

ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จีนบางราย อาทิ เยนเฟิง ออโตโมทีฟ อินทิเรียส์ (Yanfeng Automotive Interiors) ผู้ผลิตเบาะนั่ง ก็ผลิตในเม็กซิโกมาหลายปีเพราะต้นทุนต่ำกว่า และส่งให้กับค่ายรถอย่าง GM และ “โตโยต้า” // ส่วน BYD มีแผนจะตั้งโรงงานในเม็กซิโก แต่จะรองรับตลาดในจีนและไม่ส่งออกไปสหรัฐฯ

“ฟ็อกซ์คอนน์” ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตามสัญญาจ้างรายใหญ่ กำลังสร้างโรงงานเซิร์ฟเวอร์ปัญญาประดิษฐ์ขนาดยักษ์ร่วมกับ “อินวิเดีย” ในเม็กซิโก และมีแผนจะเริ่มผลิตในช่วงต้นปีหน้า

นอกจากนี้ “เลอโนโว” ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ของจีนก็มีโรงงานขนาดใหญ่ในมอนเตร์เรย์ของเม็กซิโก และ LG อิเล็กทรอนิกส์ ของเกาหลีใต้ ก็ผลิตทีวี เครื่องใช้ในบ้าน และชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าในโรงงานเม็กซิโก